๖. ลักษณะโครงการที่ดี
โครงการที่ดีมีลักษณะดังนี้
๖.๑ มิใช่งานประจำแต่เป็นงานที่จำเป็นต้องทำนอกเหนือจากงานประจำในช่วงระยะเวลาหนึ่งเพื่อจะสามารถพัฒนาสิ่งที่มีอยู่แล้วให้ดียิ่งขึ้น หรือเพื่อแก้ปัญหาเร่งด่วนหรือปัญหาระยะยาวขององค์การหรือของท้องถิ่นได้ โดยมีบุคคลหรือคณะบุคคลรับผิดชอบเป็นการเฉพาะ
๖.๒ เกิดขึ้นจากการศึกษาข้อมูลสารสนเทศและการวิเคราะห์ปัญหา ความต้องการจำเป็น เร่งด่วน หากไม่ดำเนินการจะเกิดผลเสียหาย รวมทั้งมีรายละเอียด เนื้อหาสาระครบถ้วน ชัดเจน และจำเพาะเจาะจง โดยสามารถตอบคำถาม ต่อไปนี้ได้ คือ
- โครงการอะไร = ชื่อโครงการ
- ทำไมจึงต้องริเริ่มโครงการ = หลักการและเหตุผล
- ทำเพื่ออะไร = วัตถุประสงค์
- ปริมาณที่จะทำเท่าไร = เป้าหมาย
- ทำอย่างไร = วิธีดำเนินการหรือกิจกรรม
- จะทำเมื่อไร นานเท่าใด = ระยะเวลาดำเนินการ
- ใช้ทรัพยากรเท่าไรและได้มาจากไหน = งบประมาณ แหล่งที่มา
- ใครทำ = ผู้รับผิดชอบโครงการ
- ทำที่ไหน = สถานที่ดำเนินการ
- ต้องประสานงานกับใคร = หน่วยงานที่ให้การสนับสนุน
- บรรลุวัตถุประสงค์หรือไม่ = การประเมินผล
- เมื่อเสร็จสิ้นโครงการแล้วจะได้อะไร = ผลประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ
๖.๓ รายละเอียดของโครงการดังกล่าว ต้องมีความเกี่ยวเนื่องสัมพันธ์กัน เช่น วัตถุประสงค์ ต้องสอดคล้องกับหลักการและเหตุผล วิธีดำเนินการต้องเป็นทางที่ทำให้บรรลุวัตถุประสงค์ได้ และการประเมินผลก็ประเมินตามวัตถุประสงค์ ฯลฯ เป็นต้น
๖.๔ โครงการที่ริเริ่มขึ้นมาต้องมีผลอย่างน้อยที่สุดอย่างใดอย่างหนึ่งในหัวข้อต่อไปนี้
- สนองตอบหรือสนับสนุนนโยบายขององค์การ หรือหน่วยงานระดับกรม กระทรวง จังหวัดหรือนโยบายส่วนรวมของประเทศ
- ก่อให้เกิดการพัฒนาทั้งเฉพาะส่วนหรือการพัฒนาโดยส่วนรวมของประเทศ
- แก้ปัญหาที่เกิดขึ้นได้ตรงจุด ตรงประเด็น
๖.๕ รายละเอียดในโครงการมีพอที่จะเป็นแนวทางให้ผู้อื่นอ่านแล้วเข้าใจ และสามารถดำเนินการตามโครงการได้
๖.๖ เป็นโครงการที่ปฏิบัติได้ ในช่วงเวลาที่กำหนด โดยบุคคลหรือคณะบุคคลของหน่วยงานใดหน่วยงานหนึ่ง และสามารถติดตามและประเมินผลได้ ทั้งระหว่างดำเนินการและเมื่อดำเนินการเสร็จสิ้นแล้ว
๖.๗ ผลที่เกิดขึ้นเป็นไปตามวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้ทั้งเพื่อการแก้ปัญหาหรือเพื่อการพัฒนา
๘. ความสรุป
ในการเขียนโครงการนั้น ผู้จัดทำโครงการจะต้องศึกษาปัญหา ความต้องการจำเป็น ก่อนการเขียนโครงการ การสำรวจข้อมูล การสังเกต การประชุมปรึกษา การพบปะพูดคุยกับผู้เกี่ยวข้องหรือผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย เป็นทางหนึ่งที่จะทำให้ผู้จัดทำโครงการมีแนวคิดในการจัดเตรียมโครงการ และจะช่วยให้โครงการเป็นไปได้อย่างรอบคอบ เหมาะสม มีน้ำหนัก มีเหตุผล น่าเชื่อถือ คุ้มค่า เป็นประโยชน์ยั่งยืนแท้จริง (Simmons & Simmons, 2006; พระธรรมปิฎก, ๒๕๕๒) บางโครงการที่ร่างจากนโยบายที่มีการศึกษา วิเคราะห์ ไม่ชัดเจนและหากเตรียมการไม่ละเอียดรอบคอบ ผลเสียอาจเกิดขึ้นได้ อย่างน้อยก็ไม่คุ้มทุน หรือไม่คุ้มค่าที่จะลงทุน สูญเสียแรงงาน เสียเวลา เสียทรัพยากร บางโครงการสำคัญที่มิได้มีการเตรียมการอย่างเพียงพอ หรือจัดทำขึ้นโดยเร่งด่วน ขาดการศึกษาปัญหาหรืออุปสรรคหรือผลกระทบอย่างรอบคอบ อาจไม่สามารถแก้ปัญหาอย่างแท้จริง ซึ่งนอกจากไม่คุ้มค่าของการลงทุนแล้ว ยังอาจทำให้องค์การหรือชุมชนต้องประสบปัญหาใหม่ ๆ อันเป็นผลสืบเนื่องมาจากการดำเนินโครงการนั้น ๆ ด้วย ดังเช่นโครงการก่อสร้างที่ทำไม่สำเร็จ ดำเนินการต่อมิได้ รื้อถอนก็เสียค่าใช้จ่ายมาก หรือทำสำเร็จแต่คุณภาพไม่ได้มาตรฐาน ใช้ประโยชน์ได้เพียงระยะสั้น ปรักหักพังอยู่ให้เห็นหลายแห่ง ทั้งของรัฐและของเอกชน หรือโครงการบางเรื่อง ที่ช่วงการวิเคราะห์ ศึกษาพบแต่แนวโน้มที่ส่งผลดีหรือผลทางบวกอย่างเดียว ไม่คำนึงถึงตัวแปรอื่นที่อาจก่อให้เกิดผลลบ เมื่อดำเนินการก็พบว่าไม่คุ้มค่าดังคาดไว้ และขาดทุน ยิ่งทำต่อยิ่งยิ่งก่อให้เกิดปัญหาใหม่
ดังนั้น การเขียนโครงการจึงเป็นเรื่องสำคัญ ที่ต้องกระทำอย่างละเอียดรอบคอบ และประการสำคัญที่สุดคือ ต้องเขียนบนพื้นฐานของข้อมูลรอบด้าน และการวิเคราะห์ปัญหา หรือแนวทางการพัฒนาที่ดี มีการจัดลำดับความสำคัญ แล้วตัดสินใจได้ว่า ส่วนรวมจะได้ประโยชน์สูงสุด หลังจากนั้น จึงเขียนโครงการที่มี หลักการ วัตถุประสงค์ ขั้นตอนการดำเนินการ ชัดเจน เป็นจริงได้ สำเร็จได้ ประเมินผลได้ มีคุณค่า คุ้มต่อการลงแรง และคุ้มค่าของเงินลงทุน(Value for money) ชึ่งจะเกิดผลทางสร้างสรรค์ต่อองค์การ ชุมชน สังคม และประเทศชาติโดยส่วนรวมได้ ในที่สุด
_________________________________
บรรณานุกรม
ฐาปนา ฉิ่นไพศาล และ อัจฉรา ชีวะตระกูลกิจ. (๒๕๕๓). การบริหารโครงการและการศึกษาความเป็นไปได้
กรุงเทพฯ : ธีระฟิล์มและไซเท็กซ์.
ประสิทธิ์ ตงยิ่งศริ. (๒๕๔๕). การวางแผนและการวิเคราะห์โครงการ. กรุงเทพฯ : ซีเอ็ดยูเคชั่น.
ถวัลย์รัฐ วรเทพพุฒิพงษ์. (๒๕๔๑) การกำหนดและวิเคราะห์นโยบายสาธารณะ : ทฤษฎีและการประยุกต์ใช้. กรุงเทพฯ : คณะรัฐประศาสนศาสตร์ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์.
ปราชญา กล้าผจัญ. (๒๕๕๔). ๘๘ ลู่ทางสู่ความสำเร็จของนักบริหาร. กรุงเทพฯ: ปราชญา พับบลิชชิ่ง.
พระธรรมปิฎก. (ประยุทธ์ ปยุตโต). (๒๕๕๒). การพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development)
กรุงเทพฯ: มูลนิธิโกมล คีมทอง.
ราชบัณฑิตยสถาน . (๒๕๕๕). พจนานุกรม ศัพท์ศึกษาศาสตร์. กรุงเทพฯ: อดุลการพิมพ์.
เรืองวิทย์ เกษสุวรรณ. (๒๕๕๑). การนำนโยบายไปปฏิบัติ. กรุงเทพฯ: บพิธการพิมพ์.
วิกรม กรมดิษฐ์, วิมล ไทรนิ่มนวล เรียบเรียง (๒๕๔๘). มองโลกแบบวิกรม. กรุงเทพฯ: แอล. ที. เพรส.
ศุภชัย ยาวะประภาษ และ ปิยากร หวังมหาพร. (๒๕๕๒). นโยบายสาธารณะไทย: กำเนิด พัฒนาการ และสถานภาพของศาสตร์ (พิมพ์ครั้งที่ ๒). กรุงเทพฯ: จุดทอง.
สมบัติ ธำรงธัญวงศ์ (๒๕๕๕) นโยบายสาธารณะ: แนวความคิด การวิเคราะห์ และกระบวนการ. กรุงเทพฯ: สำนักพิมพ์เสมาธรรม.
สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาแห่งชาติ (๒๕๔๓) การศึกษาเปรียบเทียบนโยบายการศึกษาของพรรค การเมือง ในต่างประเทศ. กรุงเทพฯ : บริษัท พีเพรส จำกัด.
อธิปัตย์ คลี่สุนทร. (๒๕๒๗). การเขียนโครงการ. การวางแผนและการจัดการทางการศึกษา
กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์การศาสนา.
Anderson, L. A. & Anderson, D. (2010). The Change Leader’s Roadmap (2nded.). San Francisco, CA.: Pfeiffer.
Bottery, M. (2000). Education, Policy and Ethics. London: Continuum.
Bungay, S. (2011). The Art of Action: How Leaders Close the Gaps between Plans, Actions and Results. London: Nicholas Brealey Publishing.
Buttrick, R. (2000). The Project Workout. London: Financial Times/Prentice Hall.
Denhardt, R. B. (2011). Theories of Public Organization (6th ed.). New Jersey Prentice Hall.
Dunn, W.N. (1994). Public Policy: an introduction. Englewood Cliffs, NJ: Prentice Hall.
Dye, T. R. (1981). Understanding Public Policy (4th ed.). New York: Prentice Hall.
ECKES, G. K. (2005). Six Sigma Team Dynamics: The Elusive Key of Project Success. New Jersey: John Wiley and Sons, Inc.
Kapur, G.K. (2005). Project Management for Information, Technology, Business and Certification. New Jersey: Pearson/Prentice Hall.
Lester, A. (2003). Project Planning and Control. Amsterdam: ELSEVER.
Simmons & Simmons. (2006). The Sustainable Enterprise: Profiting from the Best Practice. ((2nded.). London: Kogan Page.
Tracy, B. (2010). How the Best Leaders Lead. New York: AMACOM.
Williams, D. & Parr, T. (2006). Enterprise Programme Management: Delivering Value. Great Britain: Creative Print & Design.
Young, T. L. (2006). Successful Project Management. Great Britain: MPG Books Ltd.
คำสำคัญ: การเขียนโครงการ การวางแผน นโยบายที่ดี องค์ประกอบของโครงการ ความต้องการจำเป็น
Keywords: Project writing, Planning, Good policy, Project components, Essential needs.
ลงพิมพ์ใน RAJABHAT JOURNAL OF SCIENCE, HUMANITIES & SOCIAL SCIENCES. Vol. 13 No. 2 July-December 2012, 1-9.
* อธิปัตย์ คลี่สุนทร ค.บ., ค.ม., พบ.ม., M.S., Cert. in Policy Sci., Ph. D.
Athipat Cleesuntorn, Senior lecturer,Graduate School of eLearning, Assumption University.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น