วันเสาร์ที่ 1 มีนาคม พ.ศ. 2557

ภาคผนวก ข (1)








แผนการจัดการเรียนรู้
ทฤษฎีเชิงสังคมและวัฒนธรรม
ของไวก็อตสกี

 




















แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 1
หน่วยการเรียนรู้เรื่อง    Reading in Everyday life
รหัสวิชา อ23206                                                วิชา ภาษาอังกฤษเพื่อการศึกษาต่อ 2
กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ (สาระการเรียนรู้เพิ่มเติม)
ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3                                                                เวลา 1 คาบ

มาตรฐาน ต 1.2
            มีทักษะการสื่อสารทางภาษาในการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร แสดงความรู้สึกและ
ความคิดเห็นอย่างมีประสิทธิภาพ

ตัวชี้วัด
               ต 1.2/1 สนทนาและเขียนโต้ตอบข้อมูลเกี่ยวกับตนเอง เรื่องต่างๆ ใกล้ตัว สถานการณ์ ข่าว เรื่องที่อยู่ในความสนใจของสังคม และสื่อสารอย่างต่อเนื่องเหมาะสม
            1.2/4 พูดและเขียนเพื่อขอและให้ข้อมูลอธิบาย เปรียบเทียบและแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องที่ฟังหรืออ่านอย่างเหมาะสม
            1.2/5 พูดและเขียนบรรยายความรู้สึกและความคิดเห็นของตนเองเกี่ยวกับเรื่องต่างๆ กิจกรรม ประสบการณ์ และข่าว/เหตุการณ์ พร้อมทั้งให้เหตุผลประกอบอย่างเหมาะสม                       

สาระสำคัญ
               เนื้อหาการอ่านภาษาอังกฤษเกี่ยวกับการเสพติดอินเตอร์เน็ต และข้อสังเกตจากพฤติกรรมของตัวเอง แง่คิดเกี่ยวกับการใช้อินเตอร์เน็ต ความรู้ไวยากรณ์ present simple tense

จุดประสงค์การเรียนรู้
            1. นักเรียนสรุปใจความสำคัญของเรื่องที่อ่านได้
            2. นักเรียนบอกความหมายของคำศัพท์จากบทเรียนได้
            3. นักเรียนเดาความหมายของคำศัพท์จากบริบทได้
            4. นักเรียนบอกรายละเอียดของเรื่องที่อ่านได้
            5. นักเรียนใช้รูปแบบคำกริยาได้ถูกต้องตามกาล





คุณลักษณะอันพึงประสงค์
            - ใฝ่เรียนรู้
            - มุ่งมั่นในการทำงาน
            - รักความเป็นไทย
            - มีจิตสาธารณะ

สมรรถนะ
            - มีความสามารถในการสื่อสาร
            - มีความสามารถในการคิด
            - มีความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต
            - มีความสามารถในการใช้เทคโนโลยี

กิจกรรมการจัดการเรียนการสอน
นักเรียน
อาจารย์
1. การเชิญชวน
    1.1 นักเรียนตอบคำถาม (Possible answer: Yes, I do./ No, I don’t)
    1.2 นักเรียนตอบคำถาม (Answers will vary.)
    1.3 นักเรียนตอบคำถาม (Answers will vary.)
1. การเชิญชวน
    1.1 อาจารย์ถาม : Do you use the Internet in your daily life?
    1.2 อาจารย์ถาม :How much time do you spend on the Internet?
    1.3 นักเรียนตอบคำถาม : Is there English news on the monitor / computer screen?
2. การให้ข้อมูลป้อนกลับ
    2.1 ตัวแทนนักเรียน 2-3 รายงานคำตอบ
หน้าชั้น
(Answers will vary.)
    2.2 นักเรียนสอบถามข้อสงสัยในแต่ละหัวข้อ

2. การให้ข้อมูลป้อนกลับ
    2.1 อาจารย์ให้นักเรียนสรุปคำตอบมารายงานหน้าห้อง 2-3 คน
    2.2 ให้นักเรียนคิดว่าหัวข้อหน่วย Reading in Everyday life : What are “Reading in Everyday life” details?

    2.3 อาจารย์แจ้งให้นักเรียนทราบ ว่าหัวข้อที่
จะเรียน คือ การใช้อินเตอร์เน็ต, การแต่งงาน, ประวัติดารา นักร้อง, จดหมายอย่างไม่เป็นทางการถึงเพื่อน เป็นจำนวน
3 คาบ ในหน่วยนี้



นักเรียน
อาจารย์
3. การสร้างความเข้าใจร่วมกัน
    3.1 นักเรียนรับทราบว่าการเรียนในหน่วยนี้มีเรื่องอะไรบ้าง
3. การสร้างความเข้าใจร่วมกัน
    3.1 อาจารย์บอกรายละเอียดว่าหน่วยการเรียนนี้มีหัวข้อ ดังนี้ (In this unit, we will work on)
- Who’s in Control-The Internet or You?
 - Pamelo & Diego+ Ricky Martin
-  Friendly Letter
4. การยืดหยุ่น
    4.1 นักเรียนทำความเข้าใจเนื้อเรื่องที่อ่าน
และถามคำศัพท์ที่ไม่เข้าใจ
4. การยืดหยุ่น
    4.1 อาจารย์แจกใบความรู้เรื่อง Who’s in Control-The Internet or You? นักเรียนทำความเข้าใจเนื้อเรื่องที่อ่าน ถ้ามีคำศัพท์ที่ไม่เข้าใจให้ถามอาจารย์ได้
4.2 อาจารย์ ตอบคำถามเรื่องคำศัพท์ ตัวอย่างเช่น chat = พูดคุย; addiction= เสพย์ติด; spend = ใช้เงิน, ใช้เวลา; at least=อย่างน้อย; alcoholism= โรคติดเครื่องดื่มที่มี ส่วนผสมของแอลกอฮอล์; control=ควบคุม; several=หลากหลาย; surfing the net=เล่นอินเตอร์เน็ต; straight= ตรง, ตลอดเวลาไม่มีหยุด; estimate=โดยเฉลี่ย; research(s)=นักวิจัย; particularly=โดยเฉพาะ; cyberspace=โลกเสมือนจริง;

hobby=งานอดิเรก; symptom(s)=อาการ(ที่ไม่ดี); session= ช่วงระยะเวลา; cure=รักษา;expert(s)=ผู้เชี่ยวชาญ; recommend=แนะนำ; strict=เข้มงวด; limit=จำกัด เป็นต้น
5. ส่งเสริมการกำกับตนเอง
    5.1 นักเรียนทำแบบฝึกหัดเรื่อง Who’s in Control-The Internet or You?
    5.2 นักเรียนทำแบบทดสอบความเข้าใจในคำศัพท์เกี่ยวกับเนื้อเรื่องที่เรียน
5.  ส่งเสริมการกำกับตนเอง
    5.1 อาจารย์แจกแบบฝึกหัดเรื่อง Who’s in Control-The Internet or You? (อยู่ในภาคผนวก)
    5.2 อาจารย์ให้นักเรียนทำแบบฝึกหัดโดยการเติมคำ/วลี ลงในประโยคที่เป็นสถานการณ์ใหม่



นักเรียน
อาจารย์
6. สื่อความเข้าใจ
    6.1 นักเรียนเข้ากลุ่มช่วยกันสรุปความของเรื่อง เป็นภาษาอังกฤษ และนำเสนองานกลุ่ม
6. สื่อความเข้าใจ
    6.1 อาจารย์ช่วยนักเรียนสรุปและอภิปรายเนื้อเรื่องโดยสรุป
        - Many people are addicted to the Internet.
        - Researchers show that 6-10% of users are addicted to the Internet.
        - On the Internet  you can send and receive e-mails, play games, and surf the social network.
        - Symptoms  that show you are addicted to the Internet : You don’t want to do school work  but spend hours surfing the net ; you can’t wait  to go online; you intend to spend a little time on the Internet but you can’t do that; you go out with your friends just a bit.
        - So you have to control the Internet, not let the Internet control you.
7. สรุปงาน
    7.1 นักเรียนตรวจคำตอบ
    7.2 นักเรียนสอบถามข้อสงสัยจากเฉลย
7. สรุปงาน
    7.1 อาจารย์เฉลยแบบฝึกหัด (จากข้อ 5)
Answer the questions about the reading.
    1. What is Internet addiction?
According to researchers, Internet addicts spend at least thirty to forty hours online every week.
    2. What are some signs of Internet addiction?
        - You do not go to important family events or you do not do school projects because you like to spend hours on the Internet.   


นักเรียน
อาจารย์

       - You can’t wait for your next online session.
       - You’re determined to spend a brief time online, but then you spend several hours.
       - You spend less and less time with your friends.
    3. How can people cure Internet addiction?
Some experts recommend  that  people set strict limits on their time for Internet use.


    4. What are some positive things about the Internet?
        - You can access lots of information with only once click.
        - You can find your old friends and new friends from around the world.
    5.  What are some negative things?
        -  you do not do school projects
        - you go out with your friends less and less.
       - etc.
Which is the correct meaning of the underlined words? Choose the right answer.
    1.  When you spend forty hours a week online, you have an Internet addiction.
          a. Bad habit that you cannot stop
          b. Ability to use the Internet well
          c. Loss of free time







นักเรียน
อาจารย์

2. People lose control of their Internet time.
           a. Don’t know how much time they spend online
           b. Have no power to stop an activity
           c. Don’t  know how to measure time
           d. Don’t have any money

  3. Studies estimate that 10 percent of Internet users are addicts.
           a. Give a number that is totally accurate
           b. Give a number that is close to correct
           c. Give a total number
           d. Give a number correctly
    4. What are symptoms of Internet addiction?
          a. Causes
          b. Medical reasons for
          c. Activities that show you have a problem
          d. Motion sickness
Fill in the blanks with the words given.
    1. I want to chat with you next time online.
    2. He is addicted  to amphetamine.
    3. The experts  suggested a way to consider your Internet addiction activities.
    4. The Web is only one aspect of the Internet, and you label yourself as terminally cool if you say “surfing the net”



นักเรียน
อาจารย์

    5. He has a serious symptoms such as fever, cough, and sore throat.

สื่อ
            - ใบความรู้ที่ 1
            - ใบงานที่ 1

8. การประเมินเชิงรุก                
              
จุดประสงค์
เครื่องมือที่ใช้
ในการวัดและประเมินผล
เกณฑ์การวัดและประเมินผล
1. นักเรียนสรุปใจความสำคัญของเรื่องที่อ่านได้
2. นักเรียนบอกความหมายของคำศัพท์จากบทเรียนได้
3. นักเรียนเดาความหมายของคำศัพท์จากบริบทได้
4. นักเรียนบอกรายละเอียดของเรื่องที่อ่านได้
5. นักเรียนใช้รูปแบบคำกริยาได้ถูกต้องตามกาล
- แบบฝึกหัดท้ายบทเรียน
- การสังเกตความสามารถในการตอบคำถาม
8-9 คะแนน ดีเยี่ยม
6-7 คะแนน ดี
4-5 คะแนน ผ่าน
0-3 คะแนน ไม่ผ่าน

บันทึกผลหลังการสอน
- ผลที่เกิดขึ้นกับผู้เรียน
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
- ปัญหาที่พบ
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

- แนวทางในการพัฒนาและแก้ไข
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
                                                         
                                                          ลงชื่อ .............................................ผู้บันทึก
                                                                  (นางสาวปิลันธร มั่นพันธ์พาณิชย์)

ภาคผนวก ค
               - ใบความรู้ที่ 1 เรื่อง Who’s in Control-The Internet or You?
            - ใบงานที่ 1 เรื่อง Who’s in Control-The Internet or You?




แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 2
หน่วยการเรียนรู้เรื่อง    Reading in Everyday life
รหัสวิชา อ23206                                              วิชา ภาษาอังกฤษเพื่อการศึกษาต่อ 2
กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ (สาระการเรียนรู้เพิ่มเติม)
ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3                                                                เวลา 1 คาบ

มาตรฐาน ต 1.2
            มีทักษะการสื่อสารทางภาษาในการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร แสดงความรู้สึกและความคิดเห็นอย่างมีประสิทธิภาพ

ตัวชี้วัด
               ต 1.2/1 สนทนาและเขียนโต้ตอบข้อมูลเกี่ยวกับตนเอง เรื่องต่างๆ ใกล้ตัว สถานการณ์ ข่าว เรื่องที่อยู่ในความสนใจของสังคม และสื่อสารอย่างต่อเนื่องและเหมาะสม
            1.2/4 พูดและเขียนเพื่อขอและให้ข้อมูลอธิบาย เปรียบเทียบและแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องที่ฟังหรืออ่านอย่างเหมาะสม
            1.2/5 พูดและเขียนบรรยายความรู้สึกและความคิดเห็นของตนเองเกี่ยวกับเรื่องต่างๆ กิจกรรม ประสบการณ์ และข่าว/เหตุการณ์ พร้อมทั้งให้เหตุผลประกอบอย่างเหมาะสม

สาระสำคัญ
               เนื้อเรื่องเกี่ยวกับคู่รักที่พบรักกันและแต่งงานกัน รวมทั้งการสู้ชีวิตของบุคคลที่มีชื่อเสียงคนหนึ่งกว่าจะเป็นคนมีชื่อเสียงขึ้นมา ความรู้ไวยากรณ์ เรื่อง present perfect tense

จุดประสงค์การเรียนรู้
            1. นักเรียนสรุปใจความสำคัญของเรื่องที่อ่านได้
            2. นักเรียนบอกความหมายของคำศัพท์จากบทเรียนได้
            3. นักเรียนเดาความหมายของคำศัพท์จากบริบทได้
            4. นักเรียนบอกรายละเอียดของเรื่องที่อ่านได้
            5. นักเรียนใช้รูปแบบคำกริยาได้ถูกต้องตามกาล
            6. นักเรียนบอกความหมายของคำที่ใช้อ้างอิงถึงคำนามที่กล่าวมาแล้ว




คุณลักษณะอันพึงประสงค์
               - มีวินัย
            - ใฝ่เรียนรู้
            - มุ่งมั่นในการทำงาน
            - รักความเป็นไทย

สมรรถนะ
            - มีความสามารถในการสื่อสาร
            - มีความสามารถในการคิด
            - มีความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต

กิจกรรมการจัดการเรียนการสอน
นักเรียน
อาจารย์
1. การเชิญชวน
    1.1 นักเรียนตอบคำถาม (Answers will vary.)
1. การเชิญชวน
    1.1 อาจารย์ถามนักเรียน :
    - Have you ever been to a wedding ceremony?
    -  What do you think about marriage?
2. การให้ข้อมูลป้อนกลับ
    2.1 นักเรียนสอบถามเนื้อหาเรื่องที่จะเรียน
    2.2 นักเรียนสอบถามเรื่องราวว่าแล้วเรื่องที่เกี่ยวกับ Ricky Martin อาจารย์จะสอนเกี่ยวกับอะไรบ้าง
2. การให้ข้อมูลป้อนกลับ
    2.1 อาจารย์ให้ข้อมูลว่าในเรื่องที่เรียนประกอบด้วย
       1)  First impression, have a crush on each other, go out on a date together and then marry.
        2) The fighting in life to success.
3. การสร้างความเข้าใจร่วมกัน
    3.1 นักเรียนรับแจกใบความรู้เรื่อง Pamela & Diego และเรื่อง Ricky Martin
    3.2 นักเรียนอ่านบทความในใบความรู้ทั้ง สองเรื่อง
3. การสร้างความเข้าใจร่วมกัน
    3.1 อาจารย์แจกใบความรู้เรื่อง Pamela & Diego และเรื่อง Ricky Martin และแจ้งนักเรียนว่ากิจกรรมที่เราจะทำวันนี้เกี่ยวข้องกับเนื้อเรื่องในใบความรู้



นักเรียน
อาจารย์
4. การยืดหยุ่น
    4.1 นักเรียนจับคู่กันอ่านบทความ 2 บทความในใบความรู้และอภิปรายผล การอ่านด้วยกัน
    4.2 เรื่องที่ 1 เกี่ยวกับการพบรักตกลงใจใช้ชีวิตคู่ร่วมกัน (Pamela & Diego)
    4.3 เรื่องที่ 2 เล่าเรื่องราวถึงนักร้องนักแสดงคนหนึ่งว่ากว่าจะก้าวขึ้นมาโด่งดังได้ต้องผ่านอะไรมาเยอะแยะ (Ricky Martin)
4. การยืดหยุ่น
    4.1 อาจารย์ให้นักเรียนจับคู่กัน อภิปรายผลการอ่านด้วยกัน (Work in pairs : read and discuss)
    4.2 อาจารย์ให้แง่คิดกับนักเรียน : The marriage is the beginning of new life; it’s not the end as on TV.
4.3 แง่คิดในเรื่องที่ สอง :  If you want to succeed,  you have to work hard.
5. ส่งเสริมการกำกับตนเอง
    5.1 นักเรียนทำแบบฝึกหัดท้ายบทเรียน
    5.2 นักเรียนที่มีข้อสงสัยซักถามเกี่ยวกับวิธีการทำแบบฝึกหัด
    5.3 นักเรียนรับแจกแบบฝึกหัดอีกหนึ่งเรื่องคือเรื่อง Ricky Martin

5.  ส่งเสริมการกำกับตนเอง
    5.1 อาจารย์แจกแบบฝึกหัดท้ายบทเรียน
    5.2 อาจารย์อธิบายว่าคำสั่งแรกให้ Answer the questions about Pamela and Diego. คือ ตอบคำถามเกี่ยวกับ Pamela และ Diego และคำสั่งที่ 2 Complete the sentences with names. ทำประโยคให้สมบูรณ์ด้วยชื่อ ซึ่งก็คือ
ชื่อของ
Pamela และ Diego
    5.3 อาจารย์ให้นักเรียนหัดแปลคำสั่งเอง
โดยใบ้ความหมายศัพท์ให้ทราบ เช่น about
=เกี่ยวกับ; match=จับคู่, เข้าคู่; definitions= คำจำกัดความ
6. สื่อความเข้าใจ
    6.1 นักเรียนร่วมกันอภิปรายความหมายของเนื้อเรื่องที่เรียน
    6.2 ร่วมกันเฉลยคำตอบแบบฝึกหัดใน
ชั้นเรียน
6. สื่อความเข้าใจ
    6.1 อาจารย์ช่วยเสริมเกี่ยวกับเนื้อเรื่องที่อ่าน โดยบอกคำศัพท์ที่เกี่ยวข้อง ดังนี้ subway= รถไฟใต้ดิน; elegant= ดูดีมีสง่า; ranch=ไร่ปศุสัตว์; produce= ผลิต; notice=มองเห็น, ได้รับรู้การมีอยู่; energetic=เปี่ยมไปด้วยความแจ่มใส; invite=เชื้อเชิญ; job interview=สัมภาษณ์ เข้าทำงาน; love at first sight= รักแรกพบ;



นักเรียน
อาจารย์

guest=แขก,ผู้มาเยือน; single=ในที่นี้หมายถึงเพลง;career=อาชีพ; choir=กลุ่มคนที่ร้องเพลงในโบสถ์; commercial= ทางพาณิชย์, การค้าขาย; teenage=วัยรุ่น; audition=การแสดงสั้นๆ เพื่อให้กรรมการตัดสินว่าเหมาะสมหรือไม่; perform= แสดง; join=เข้าร่วม; sold out=ขายหมด; continent=ทวีป; peak=จุดสูงสุด; soap operas=ละครน้ำเน่า; nowadays=ปัจจุบันนี้; a household name= ชื่อเสียงเป็นที่รู้จักแพร่หลาย
7. สรุปงาน
    7.1 นักเรียนฟังอาจารย์เฉลยแบบฝึกหัด
    7.2 นักเรียนซักถามข้อสงสัย
7. สรุปงาน
7.1 อาจารย์เฉลยแบบฝึกหัด
Answer about Pamela and Diego.
1.      Where were they born?
Pamela was from Texas. Diego was from Argentina.
2.      Where did they meet?
They met on a subway in Paris.
Diego noticed Pamela when she got out of the subway train, and follow Pamela.
3.      How did they meet?
Diego had to get off at the same stop.
4.      What did they do?
They walked to the job interview at the same office.
Answer the questions about the reading.
1.      Where was Ricky Martin born?
He was born in San Juan, Puerto Rico.
When did he become interested in entertainment?





นักเรียน
อาจารย์

He became interested in a career as an entertainer in elementary school.
2.      Which group did he use to sing with as a teenager?
The Latin group Menudo.
3.      How old was he when he joined the group?
Ten years old.
4.      What did he do in Mexico?
There he began an acting career in Mexican soap operas.
5.      When did his solo career become successful?
In 1995
Find words in the reading that match the definitions.
1. A famous performer (first paragraph) a star    2. A group of singers (second paragraph)choir     3. An ad on TV (second paragraph)television commercials    
4. Highest point (fifth paragraph) peak     
5. On one’s own (fifth paragraph) solo 
6. Unhappiness because you can’t reach a goal (fifth paragraph)miserable
Fill in the blanks with the words given.
1.      I get an interview for my new job.

2.      Thailand has both sky train and subway train.
3.      She has an audition for her next character of new series.
4.      Justin Beber is very popular so his concert tickets sold out in just only two hours.


นักเรียน
อาจารย์

5.      The children are happy when their mothers let them go to play at the playground
7.2 อาจารย์ตอบคำถามของนักเรียน
7.3 อาจารย์ให้ข้อสังเกตจากการอ่านแก่นักเรียนและอภิปรายร่วมกับนักเรีนเพื่อให้ได้ประเด็นสรุปต่อไปนี้
เรื่องที่ 1 การแต่งงานในละครคือตอนจบแต่ชีวิตจริงคือการเริ่มต้นของคน 2 คน (The end of the soap opera is wedding ceremony, but in real life it’s the beginning.)
เรื่องที่ 2 ชีวิตที่ราบรื่นคือชีวิตที่ไม่มีอะไรเลย แต่ชีวิตที่ลำบาก กระเสือกกระสน คือ คุณค่าของการมีชีวิตอยู่ (Life is the fighting)

สื่อ                                  
            - ใบความรู้ที่ 2
            -  ใบงานที่ 2

8. การประเมินเชิงรุก    

จุดประสงค์
เครื่องมือที่ใช้
ในการวัดและประเมินผล
เกณฑ์การวัดและประเมินผล
1. นักเรียนสรุปใจความสำคัญของเรื่องที่อ่านได้
2. นักเรียนบอกความหมายของคำศัพท์จากบทเรียนได้
3. นักเรียนเดาความหมายของคำศัพท์จากบริบทได้
4. นักเรียนบอกรายละเอียดของเรื่องที่อ่านได้
5. นักเรียนใช้รูปแบบคำกริยาได้ถูกต้องตามกาล
- แบบฝึกหัดท้ายบทเรียน
- การสังเกตความสามารถในการตอบคำถาม
8-9 คะแนน ดีเยี่ยม
6-7 คะแนน ดี
4-5 คะแนน ผ่าน
0-3 คะแนน ไม่ผ่าน
จุดประสงค์
เครื่องมือที่ใช้
ในการวัดและประเมินผล
เกณฑ์การวัดและประเมินผล
6. นักเรียนบอกความหมายของคำที่ใช้อ้างอิงถึงคำนามที่กล่าวมาแล้ว



บันทึกผลหลังการสอน
- ผลที่เกิดขึ้นกับผู้เรียน
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

- ปัญหาที่พบ
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
- แนวทางในการพัฒนาและแก้ไข
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
                                                         
                                                          ลงชื่อ .............................................ผู้บันทึก
                                                                  (นางสาวปิลันธร มั่นพันธ์พาณิชย์)

ภาคผนวก ค
- ใบความรู้ที่ 2 เรื่อง Pamela and Diego และเรื่อง Ricky Martin
- ใบงานที่ 2 เรื่อง Pamela and Diegoและเรื่อง Ricky Martin





แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 3
หน่วยการเรียนรู้เรื่อง    Reading in Everyday life
รหัสวิชา อ23206                                              วิชา ภาษาอังกฤษเพื่อการศึกษาต่อ 2
กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ (สาระการเรียนรู้เพิ่มเติม)
ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3                                                                  เวลา 1 คาบ

มาตรฐาน ต 2.1
            เข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างภาษากับวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา และนำไปใช้ได้อย่างเหมาะสมกับกาลเทศะ

ตัวชี้วัด
               ต 2.1/2 อธิบายเกี่ยวกับชีวิตความเป็นอยู่ ขนบธรรมเนียม ประเพณีของเจ้าของภาษา

จุดประสงค์การเรียนรู้
            1. นักเรียนสรุปใจความสำคัญของเรื่องที่อ่านได้
            2. นักเรียนบอกความหมายของคำศัพท์จากบทเรียนได้
            3. นักเรียนเดาความหมายของคำศัพท์จากบริบทได้
            4. นักเรียนบอกรายละเอียดของเรื่องที่อ่านได้

สาระสำคัญ
               เรื่องราวเกี่ยวกับการเขียนจดหมายถึงเพื่อน หรือ Informal Letter ที่ใช้ภาษาง่ายๆ
เป็นกันเอง และมีรูปแบบที่ยืดหยุ่นได้ ไวยากรณ์เรื่อง future simple tense

คุณลักษณะอันพึงประสงค์
            - รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์
            - มีวินัย
            - ใฝ่เรียนรู้
            - รักความเป็นไทย



สมรรถนะ
            - มีความสามารถในการสื่อสาร
            - มีความสามารถในการคิด
            - มีความสามารถในการแก้ปัญหา
            - มีความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต

กิจกรรมการจัดการเรียนการสอน
นักเรียน
อาจารย์
1. การเชิญชวน
    1.1 นักเรียนตอบคำถาม (Possible answers: Yes, I have./ No, I have not.)
    - (Possible answers: Thai/English)
    - (Answers will vary)
1. การเชิญชวน
    1.1 อาจารย์ถามนักเรียน : Have you ever written a letter?
    - In Thai or English?
    - If you meet a foreigner, what will you tell him/her about your hometown?
2. การให้ข้อมูลป้อนกลับ
    2.1 นักเรียนสอบถามอาจารย์ว่าจะได้เรียนเนื้อหาเกี่ยวกับอะไร และเป็นอย่างไร
2. การให้ข้อมูลป้อนกลับ
    2.1 อาจารย์แจ้งนักเรียนว่า : We will learn about a friendly letter or an informal letter.
3. การสร้างความเข้าใจร่วมกัน
    3.1 นักเรียนรับแจกใบความรู้เรื่อง Friendly Letter แล้วอ่านทำความเข้าใจ
    3.2 นักเรียนทำความเข้าใจในเนื้อเรื่องที่อ่าน และถามคำศัพท์ที่ไม่เข้าใจ
3. การสร้างความเข้าใจร่วมกัน
    3.1 อาจารย์แจกใบความรู้เรื่อง Friendly Letter ให้นักเรียนแต่ละคนอ่าน
    3.2 อาจารย์ตอบคำถามเรื่องคำศัพท์ เช่น hectic=เร่งด่วน; chaotic=ไม่เป็นระเบียบ,สับสน; son=ลูกชาย; daughter=ลูกสาว; Grandpa=ปู่,ตา; Grandma=ย่า,ยาย; favorite=โปรดปราน; culture=วัฒนธรรม; chopsticks=ตะเกียบ; spoon(s)=ช้อน; fork(s)= ส้อม; genuine=แท้; mahout(s)=ควาญช้าง, คนเลี้ยงช้าง; fascinate= ประหลาดใจ, ทึ่ง; traditional=เกี่ยวกับประเพณี; Thai boxing= มวยไทย
เป็นต้น



นักเรียน
อาจารย์
4. การยืดหยุ่น
    4.1 นักเรียนสรุปเรื่องราวในจดหมายร่วมกันเป็นภาษาอังกฤษ
4. ยืดหยุ่น
    4.1 อาจารย์ให้นักเรียนจับคู่อ่านทำความเข้าใจและอภิปรายความหมายของเนื้อเรื่องร่วมกัน (Work in pairs : read and discuss)
    4.2 อาจารย์ช่วยเสริม สรุป เรื่องราว ดังนี้
        - It’s a letter from Mandy to Liz.
        - Bangkok is a busy place.The traffic is hectic and chaotic.
        - The population of Bangkok is around 10 million.
        - Mandy’s host family live in a nice, quiet area outside the city.
        - The host family consists of Mr. and Mrs. Phairat their son Sanan, 18, their daughter, Chinda, 16, and Grandpa and Grandma.
        - Mr. Phairat has an import-export and lots of travel businesses.
        - Mrs. Phairat can speak many languages.
        - Mandy goes to an International school with Sanan and Chinda.
        - Their school teaches 10% in English and 30% in Thai.
        - Mandy can speak Thai but cannot write.
        - Mandy likes Thai cooking and Thai culture.

        - If Mandy goes back to her hometown, she will cook a genuine Thai cuisine for her friend.

นักเรียน
อาจารย์

       - They have been to Pattaya and Northern  Thailand.
        - Mandy found that her host family uses elephants to pull logs.
        - Mandy rode and washed the elephant.
        - She told her friend about the importance of  elephants.
5. ส่งเสริมการกำกับตนเอง
    5.1 นักเรียนทำแบบฝึกหัด
    5.2 นักเรียนซักถามความหมายคำศัพท์ หรือถามข้อสงสัยเกี่ยวกับวิธีทำแบบฝึกหัด
5. ส่งเสริมการกำกับตนเอง
    5.1 อาจารย์แจกแบบฝึกหัด
    5.2 อาจารย์อธิบายคำศัพท์ในแบบฝึกหัดตามที่นักเรียนซักถาม มีคำสั่งดังนี้
        -  Answer the questions about the reading.
        - Check the correct meaning according to the reading.
6. สื่อความเข้าใจ
    6.1 นักเรียนร่วมกันอภิปรายความหมายของเรื่องที่เรียน (Answer will vary.)
    6.2 นักเรียนคนที่ยังไม่เข้าใจซักถามอาจารย์หรือเพื่อนที่สามารถตอบได้
6. สื่อความเข้าใจ
    6.1 อาจารย์ถามนักเรียน : Do you understand these two stories? Let’s discuss.
    6.2 อาจารย์ช่วยเสริมความเข้าใจ
7. สรุปงาน
    7.1 นักเรียนส่งแบบฝึกหัด
7. สรุปงาน
    7.1 อาจารย์ให้นักเรียนส่งแบบฝึกหัด และให้ข้อคิดนักเรียนว่า : Elephants are important to Thailand both for its people and culture.

สื่อ                                  
            - ใบความรู้ที่ 3
            - ใบงานที่ 3




8. การประเมินเชิงรุก    

จุดประสงค์
เครื่องมือที่ใช้
ในการวัดและประเมินผล
เกณฑ์การวัดและประเมินผล
1. นักเรียนสรุปใจความสำคัญของเรื่องที่อ่านได้
2. นักเรียนบอกความหมายของคำศัพท์จากบทเรียนได้
3. นักเรียนเดาความหมายของคำศัพท์จากบริบทได้
4. นักเรียนบอกรายละเอียดของเรื่องที่อ่านได้
- แบบฝึกหัดท้ายบทเรียน
8-9 คะแนน ดีเยี่ยม
6-7 คะแนน ดี
4-5 คะแนน ผ่าน
0-3 คะแนน ไม่ผ่าน

บันทึกผลหลังการสอน
- ผลที่เกิดขึ้นกับผู้เรียน
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
- ปัญหาที่พบ
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

- แนวทางในการพัฒนาและแก้ไข
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
                                                         
                                                          ลงชื่อ .............................................ผู้บันทึก
                                                                  (นางสาวปิลันธร มั่นพันธ์พาณิชย์)
ภาคผนวก ค
            - ใบความรู้ที่ 3 เรื่อง Letter to a friend
            - ใบงานที่ 3 เรื่อง Letter to a friend



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น