วันเสาร์ที่ 1 มีนาคม พ.ศ. 2557

ภาคผนวก ข (2)

แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 4
หน่วยการเรียนรู้เรื่อง    Easy History
รหัสวิชา อ23206                                              วิชา ภาษาอังกฤษเพื่อการศึกษาต่อ 2
กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ (สาระการเรียนรู้เพิ่มเติม)
ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3                                                                  เวลา 1 คาบ

มาตรฐาน ต 1.1
            เข้าใจและตีความเรื่องที่ฟังและอ่านจากสื่อประเภทต่างๆ และแสดงความคิดเห็นอย่างมีเหตุผล

ตัวชี้วัด
               ต 1.1/1 ปฏิบัติตามคำขอร้อง คำแนะนำ คำชี้แจง และคำอธิบายที่ฟังและอ่าน
             1.1/2 อ่านออกเสียงข้อความ ข่าว โฆษณา และบทร้อยกรองสั้นๆ ถูกต้องตามหลักการอ่าน
            ต 1.1/4 เลือก/ระบุ หัวข้อเรื่อง ในความสำคัญรายละเอียดสนับสนุนและแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องที่ฟังและอ่านจากสื่อประเภทต่างๆ พร้อมทั้งให้เหตุผลและยกตัวอย่างประกอบ

จุดประสงค์การเรียนรู้
            1. นักเรียนเดาความหมายของคำศัพท์จากบริบทได้
            2. นักเรียนบอกรายละเอียดของเรื่องที่อ่านได้
            3. นักเรียนใช้รูปแบบคำกริยาได้ถูกต้องตามกาล
            4. นักเรียนบอกความหมายของคำที่ใช้อ้างอิงถึงคำนามที่กล่าวมาแล้ว

สาระสำคัญ
               นักเรียนได้เรียนรู้เกี่ยวกับที่มาที่ไปของสิ่งประดิษฐ์ต่างๆ ในชีวิตประจำวันของนักเรียนเอง ไวยากรณ์เรื่อง Past simple tense



คุณลักษณะอันพึงประสงค์
            - ซื่อสัตย์สุจริต
            - มีวินัย
            - ใฝ่เรียนรู้
            - อยู่อย่างพอเพียง
            - มีจิตสาธารณะ

สมรรถนะ
            - มีความสามารถในการสื่อสาร
            - มีความสามารถในการคิด
            - มีความสามารถในการใช้เทคโนโลยี

กิจกรรมการจัดการเรียนการสอน
นักเรียน
อาจารย์
1. การเชิญชวน
    1.1 นักเรียนตอบคำถาม (Answers will vary.)
    1.2 นักเรียนถามอาจารย์ว่าวันนี้เราจะเรียนเรื่องอะไร
1. การเชิญชวน
    1.1 อาจารย์ถามนักเรียน :
     -  What did you do yesterday?
     -  Where did you go?
    1.2 อาจารย์ตอบนักเรียนว่าหน่วยนี้ชื่อหน่วย Easy History จะเรียนเกี่ยวกับเหตุการณ์ในอดีตที่ผ่านมาอย่างเข้าใจง่ายๆ
2.  การให้ข้อมูลป้อนกลับ
    2.1 นักเรียนตอบคำถาม (Answers will vary.)
      2.2 นักเรียนยกตัวอย่างประวัติบุคคล ประวัติสัตว์ หรือประวัติสิ่งของ เล่าให้อาจารย์ฟัง (Answers will vary.)
2. การให้ข้อมูลป้อนกลับ
    2.1 อาจารย์ถามนักเรียนเกี่ยวกับสิ่งต่างๆ ต่อไปนี้ :
        - Wristwatch, television, refrigerator, mobile phone, who invented them?
        - Are they cheap or expensive?
        - Do you use them in your daily life?
        - Can you live without them?


นักเรียน
อาจารย์
3. การสร้างความเข้าใจร่วมกัน
    3.1 นักเรียนสอบถามว่าจากที่อาจารย์เกริ่นมาเราจะเรียนอะไรบ้างในหน่วย Easy History
    3.2 นักเรียน ตอบคำถาม (Answers will vary.)
3. การสร้างความเข้าใจร่วมกัน
    3.1 อาจารย์แจ้งหัวข้อที่จะเรียนในหน่วย Easy History ดังนี้
        - since when?
        - the magic of movies
        - people who made a big difference  
        – in a small way
        - past simple tense
    3.2 อาจารย์ถามนักเรียน : How long have the radio, refrigerator, television and wristwatch been invented?  Who invented them?
4. การยืดหยุ่น
    4.1 นักเรียนรับแจกใบความรู้เรื่อง Since When?
    4.2 นักเรียนจับคู่กันอ่านใบความรู้และอภิปรายร่วมกัน
    4.3 นักเรียนอ่านทำความเข้าใจเนื้อเรื่องและสอบถามคำศัพท์ที่ไม่เข้าใจ
4. การยืดหยุ่น
    4.1 อาจารย์แจกใบความรู้เรื่อง since when?
    4.2 ให้นักเรียนจับคู่กับเพื่ออ่านและอภิปรายทำความเข้าใจเนื้อเรื่อง (Work in pairs : read and discuss)
    4.3 อาจารย์ตอบคำถาม เช่น invention=สิ่งประดิษฐ์; surprise=ประหลาดใจ; recently=เร็วๆ นี้; cell phone=โทรศัพท์มือถือ; electromagnetic=แม่เหล็กไฟฟ้า; antennas=เสาอากาศ; kites=ว่าว; since=ตั้งแต่; then=ต่อจากนั้นหลังจากนั้น; refrigerator= ตู้เย็น; lately=เร็วๆ นี้; tube=หลอด; spot=จุด; however=อย่างไรก็ตาม, อย่างไรก็ดี, แม้ว่า, กระนั้นก็ดี, ก็ตามที; era=ยุค, สมัย, ช่วง, ศักราช, ศก, กาล, ระยะ, ตอน, กาลเวลา;


นักเรียน
อาจารย์

aviator=กัปตันเครื่องบิน, นักบิน; wristwatch=นาฬิกาข้อมือ; necessity= ความจำเป็น, สิ่งจำเป็น, ความสำคัญ, เรื่องฉุกเฉิน, ความแน่แท้, เร่งด่วน; jewelry= เครื่องประดับ เป็นต้น
5. ส่งเสริมการกำกับตนเอง
    5.1 นักเรียนทำแบบฝึกหัดทักษะความสามารถท้ายบทเรียน
5. ส่งเสริมการกำกับตนเอง
    5.1 อาจารย์แจกแบบฝึกทักษะความสามารถ ท้ายบทเรียน
6. สื่อความเข้าใจ
6.1 นักเรียนร่วมกันอภิปรายเนื้อหาเรื่องที่เรียนโดยแบ่งเป็นข้อๆ โดยใช้ภาษาอังกฤษ
6. สื่อความเข้าใจ
    6.1 อาจารย์ให้นักเรียนร่วมกันอภิปรายเนื้อหา เรื่องที่เรียน และสรุปข้อมูลโดยใช้ภาษาอังกฤษ เช่น
        - Cell phones were invented in the 20th century.
        - On December 12, 1901, Marconi tied several antennas to kites.
        - He sent a Morse code across the Atlantic Ocean.
          - The use of waves for communication has been part of people’s everyday life.
        - Refrigerators appeared in the early 1920s.
        - The Chinese invented ice cream 4,000 years ago.
        - In Baghdad, in the eighth century, a king used to import snow and put it between the walls of his summer home.
        - In 1834, Jacob Perkins,  an American who lived in London, invented a machine to make ice. Now we can’t live without it.

นักเรียน
อาจารย์

         - The average American visits the refrigerator about 45 times a day.
         - The black-and-white television began in 1926 when John Logie Baird gave the first demonstration of a television image in London.
         - Philo Farnsworth used a tube with spots of lights for TV pictures.
         - Valadimir Zworkin invented a good television camera.
          - The U.S. Company RCA opened an experimental TV station in 1930.
         - By 1940, there were over hundred TV stations in the United States.
         - Many clocks have been invented such as the Egyptian sun clock, the Roman and Greek water clock, the sand clock, the mechanical clock, and the grandfather clock.
         - The pocket watch appeared in Germany about 1500.
         - Around 1910 the Brazilian aviator, Alberto Santos Dumond, created the first wristwatch.
         - He needed to check his flying time and also keep his hand on the control of his plane, and he wasn’t able to take his watch out of his pocket.

         - He put a watch around his wrist.
         - The jewelry maker Cartier used Dumond’s idea to make a wristwatch.


นักเรียน
อาจารย์
7. สรุปงาน
    7.1 นักเรียนส่งการบ้านจากคาบที่แล้ว
    7.2 นักเรียนตรวจแบบฝึกหัดจากที่อาจารย์เฉลย และสอบถามข้อสงสัยจากแบบฝึกหัด
7. สรุปงาน
    7.1 อาจารย์ให้นักเรียนส่งการบ้านจากคาบที่แล้ว
    7.2 อาจารย์เฉลยแบบฝึกหัดดังนี้
Complete the sentences with for or since.
1.      Mr. Jackson has had his TV set for
fifteen  years!
2.      I’ve taken driving lessons
since last month.
3.      My sister has had her cell phone for
a month.
4.      My friends haven’t visited me since
 my birthday.
5.      We haven’t used our car for a long time.
6.      I haven’t had a good cup of coffee for
 years.
7.      Tom has worn glasses since
 he was seven.
8.      Since when have you worn that attractive
wristwatch?
Complete the paragraph. Choose the correct pronoun.
Before television, the cell phone, and the Internet, people had more time for (one another/ someone).


นักเรียน
อาจารย์

When you visited (someone/ anyone), the person sat with you, and you talked to (everyone/ each other). You had a good long chat over a cup of coffee, because (no one/ everybody) called to talk to you on the cell phone. Today, (no one/ anybody) without a cell phone is considered old-fashioned. And if you want to talk to (somebody/ no one) in the family, you have to wait until the TV commercials come on. (Everyone/ Anyone) is too busy watching TV, or talking on the phone, or surfing the net to talk to (one another/ everybody).
Fill in the blanks with the words given.
1.      Tom gave Susan a birthday gift to surprise her. 
2.      In the past, people use the antenna to receive signals, but today satellites are used.
3.      Test tubes are used in laboratories.
4.      A necklace is a kind of jewelry.
A mobile phone is a recent invention.

สื่อ                                  
            - ใบความรู้ที่ 4
            - ใบงานที่ 4



8. การประเมินเชิงรุก    

จุดประสงค์
เครื่องมือที่ใช้
ในการวัดและประเมินผล
เกณฑ์การวัดและประเมินผล
1. นักเรียนเดาความหมายของคำศัพท์จากบริบทได้
2. นักเรียนบอกรายละเอียดของเรื่องที่อ่านได้
3. นักเรียนใช้รูปแบบคำกริยาได้ถูกต้องตามกาล
4. นักเรียนบอกความหมายของคำที่ใช้อ้างอิงถึงคำนามที่กล่าวมาแล้ว
- แบบฝึกหัดท้ายบทเรียน
8-9 คะแนน ดีเยี่ยม
6-7 คะแนน ดี
4-5 คะแนน ผ่าน
0-3 คะแนน ไม่ผ่าน

บันทึกผลหลังการสอน
- ผลที่เกิดขึ้นกับผู้เรียน
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
- ปัญหาที่พบ
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
- แนวทางในการพัฒนาและแก้ไข
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………                                                         
                                                          ลงชื่อ .............................................ผู้บันทึก
                                                                   (นางสาวปิลันธร มั่นพันธ์พาณิชย์)
ภาคผนวก ค
            - ใบความรู้ที่ เรื่อง Since When?
            - ใบงานที่ เรื่อง Since When?
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 5
หน่วยการเรียนรู้เรื่อง    Easy History
รหัสวิชา อ23206                                              วิชา ภาษาอังกฤษเพื่อการศึกษาต่อ 2
กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ (สาระการเรียนรู้เพิ่มเติม)
ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3                                                                 เวลา 1 คาบ

มาตรฐาน ต 4.1
            ใช้ภาษาต่างประเทศในสถานการณ์ต่างๆ ทั้งในสถานศึกษา ชุมชน และสังคม

ตัวชี้วัด
            ต 4.1/1 ใช้ภาษาสื่อสารในสถานการณ์จริง/สถานการณ์จำลองที่เกิดขึ้นในห้องเรียน สถานศึกษา ชุมชน และสังคม

จุดประสงค์การเรียนรู้
            1. นักเรียนสรุปใจความสำคัญของเรื่องที่อ่านได้
            2. นักเรียนบอกความหมายของคำศัพท์จากบทเรียนได้
            3. นักเรียนเดาความหมายของคำศัพท์จากบริบทได้
            4. นักเรียนบอกรายละเอียดของเรื่องที่อ่านได้
            5. นักเรียนใช้รูปแบบคำกริยาได้ถูกต้องตามกาล

สาระสำคัญ
               นักเรียนจะได้เรียนรู้เกี่ยวกับความมหัศจรรย์จากการสร้างหนังสักเรื่องหนึ่ง
และเอฟเฟกพิเศษเกิดมาตั้งแต่เมื่อไหร่ เบื้องหลังสเปเชี่ยลเอฟเฟกต่างๆ ได้เรียนรู้ไวยากรณ์เรื่อง 
Present perfect tense

คุณลักษณะอันพึงประสงค์
            - รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์
            - ใฝ่เรียนรู้
            - อยู่อย่างพอเพียง
            - มีจิตสาธารณะ


สมรรถนะ
            - มีความสามารถในการสื่อสาร
            - มีความสามารถในการคิด
            - มีความสามารถในการแก้ปัญหา
            - มีความสามารถในการใช้เทคโนโลยี

การจัดกิจกรรมการเรียนการสอน
นักเรียน
อาจารย์
1. การเชิญชวน
    1.1 นักเรียนตอบคำถาม (Answer will vary.)
1. การเชิญชวน
    1.1 อาจารย์ถามนักเรียน :
    - Do you know the history of movies?
2. การให้ข้อมูลป้อนกลับ
    2.1 นักเรียนตอบคำถาม (Possible answers: Yes, I do./ No, I don’t.)
    2.2 นักเรียนตอบคำถาม (Answers will vary.)
2. การให้ข้อมูลป้อนกลับ
    2.1 อาจารย์ถามนักเรียน :
    -  Do you know Toy Story, King Kong, and Star Wars?
    - We will learn how they are made.
    2.2 อาจารย์ให้นักเรียนบางคนที่มีข้อมูลเกี่ยวกับการสร้างภาพยนตร์ เล่าให้เพื่อนฟังและอาจารย์ช่วยเสริม
3. การสร้างความเข้าใจร่วมกัน
    3.1 นักเรียนรับแจกใบความรู้เรื่อง
The magic of movies
3. การสร้างความเข้าใจร่วมกัน
    3.1 อาจารย์แจกใบความรู้เรื่อง The magic of movies
4. การยืดหยุ่น
     4.1 นักเรียนจับคู่กับเพื่อนอ่านและอภิปรายทำความเข้าใจร่วมกัน
    4.2 นักเรียนอ่านทำความเข้าใจเนื้อเรื่องและสอบถามคำศัพท์ที่ไม่เข้าใจ
4. การยืดหยุ่น
    4.1 อาจารย์ให้นักเรียนจับคู่กันอ่านและอภิปรายทำความเข้าใจร่วมกัน (Work in pairs : read and discuss)
4.2 อาจารย์ตอบคำถามของนักเรียน เช่น audience=ผู้เข้าชม, ผู้ฟัง; scream=กรีดร้องร้องตะโกน; filmmaker= คนสร้างหนัง; various=หลากหลาย; special effect=ลักษณะพิเศษ;



นักเรียน
อาจารย์

amaze=ทำให้อัศจรรย์ใจ, ตะลึงพรึงเพริด, แปลกใจ, ทำให้สนเทห์, งัน; genius= ความสามารถพิเศษ, อัจฉริยภาพ, พรสวรรค์, อัจฉริยบุคคล; disappear= หายไป; moviemaker= ผู้สร้างหนัง; substitute=ผู้เล่นสำรอง, ทดแทน; dummy= ตัวแทนเชิด, คนปัญญาทึบ, หุ่นโชว์, รูปหุ่น; gasp=อ้าปากค้าง, การหายใจไม่ออก; horror= ความน่ากลัว, ความน่าหวาดกลัว, ความน่าขยะแขยง; model=แบบ, หุ่นจำลอง; huge=ใหญ่, มหาศาล; scare=หวาดกลัว; actually= แท้จริง, ตามจริง; stop-motion=การถ่ายทำแบบหยุดการเคลื่อนไหว เป็นช่วงๆ ติดต่อกันไป พอถ่ายออกมาก็เหมือนเคลื่อนไหวต่อเนื่องกัน; entirely=อย่างสิ้นเชิง, ตลอดทั้งหมด; director=ผู้กำกับ; expression=การแสดงออก, การแสดงความคิด
5. ส่งเสริมการกำกับตนเอง
5.1 นักเรียนทำแบบฝึกหัดทักษะความสามารถในการอ่านท้ายบทเรียน
5.2 นักเรียนสอบถามเกี่ยวกับการทำ แบบฝึกหัด
5. ส่งเสริมการกำกับตนเอง
5.1 อาจารย์ให้นักเรียนทำแบบฝึกหัดทักษะ ความสามารถในการอ่านท้ายบทเรียน
5.2 ตอบคำถามข้อสงสัยเกี่ยวกับแบบฝึกหัด
6. สื่อความเข้าใจ
    6.1 นักเรียนร่วมกันอภิปรายความหมายของเนื้อเรื่องที่อ่าน
    6.2 นักเรียนบอกเนื้อเรื่องโดยสรุปเป็นหัวข้อภาษาอังกฤษ
6. สื่อความเข้าใจ
    6.1 อาจารย์ให้นักเรียนร่วมกันอภิปรายความหมายของเนื้อเรื่องที่อ่าน (Discuss the text)
    6.2 อาจารย์ช่วยนักเรียนสรุปเป็นหัวข้อภาษาอังกฤษ เช่น




นักเรียน
อาจารย์

        - The first movie was shown on December 28, 1895.
        - Lumiere brothers showed short films in a café in Paris.
        - Since then, filmmakers have used various techniques to amaze audiences.
        - The first genius special effects were used in a movie called The Conjurer.
        - Early moviemakers stopped the camera and then started it again in order to make movements. It’s call the stop-motion technique.
        - One of the most famous special effects in the movie history in 1933 was King Kong.
        -  In 1966, the movie Toy Story was the first movie made entirely of computer-generated images and characters.
        - Star Wars films have made expensive use of digital computer images.
7. สรุปงาน
    7.1 นักเรียนตรวจคำตอบแบบฝึกทักษะ
    7.2 นักเรียนสอบถามข้อสงสัย
7. สรุปงาน
    7.1 อาจารย์เฉลยคำตอบแบบฝึกทักษะ ดังนี้
Complete the sentences. Use the information in the reading.
        1. Movie audiences have watched movies since 1895 .



นักเรียน
อาจารย์

        2. Filmmakers have used techniques  to create the magic of movies. These include small models for large objects  and stop-motion techniques.
        3. In one of his early films, Edison substituted a dummy for the actress in the film about Mary, Queen of Scots.
        4. The huge gorilla that climbed the Empire State Building was actually only 18 inches high.
Match the words with their meanings.
        1. d  2. a  3. e  4. c  5. b
Fill in the blanks with the words given.
        2. There are 300 audiences
to watch “Tawipop the Musical”.
        3. Steven Spielberg used many special techniques to make Star Wars.
        4. John is a substitute football player of the Real Madrid team.
        5. You are entirely welcome.
A dance is a form of artistic expression.

สื่อ                                  
            - ใบความรู้ที่ 5
            - ใบงานที่ 5

8. การประเมินเชิงรุก    

จุดประสงค์
เครื่องมือที่ใช้
ในการวัดและประเมินผล
เกณฑ์การวัดและประเมินผล
1. นักเรียนสรุปใจความสำคัญของเรื่องที่อ่านได้
- แบบฝึกหัดท้ายบทเรียน
8-9 คะแนน ดีเยี่ยม
6-7 คะแนน ดี
จุดประสงค์
เครื่องมือที่ใช้
ในการวัดและประเมินผล
เกณฑ์การวัดและประเมินผล
2. นักเรียนบอกความหมายของคำศัพท์จากบทเรียนได้
3. นักเรียนเดาความหมายของคำศัพท์จากบริบทได้
4. นักเรียนบอกรายละเอียดของเรื่องที่อ่านได้
5. นักเรียนใช้รูปแบบคำกริยาได้ถูกต้องตามกาล

4-5 คะแนน ผ่าน
0-3 คะแนน ไม่ผ่าน

บันทึกผลหลังการสอน
- ผลที่เกิดขึ้นกับผู้เรียน
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
- ปัญหาที่พบ
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
- แนวทางในการพัฒนาและแก้ไข
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
                                                         
                                                          ลงชื่อ .............................................ผู้บันทึก
                                                                  (นางสาวปิลันธร มั่นพันธ์พาณิชย์)

ภาคผนวก ค
            - ใบความรู้ที่ เรื่อง The Magic of Movies
            - ใบงานที่ เรื่อง The Magic of Movies


แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 6
หน่วยการเรียนรู้เรื่อง    Easy History
รหัสวิชา อ23206                                              วิชา ภาษาอังกฤษเพื่อการศึกษาต่อ 2
กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ (สาระการเรียนรู้เพิ่มเติม)
ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3                                                               เวลา 1 คาบ

มาตรฐาน ต 1.2
            มีทักษะการสื่อสารทางภาษาในการและเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร แสดงความรู้สึกและความคิดเห็นอย่างมีประสิทธิภาพ

ตัวชี้วัด
               ต 1.2/1 สนทนาและเขียนโต้ตอบข้อมูลเกี่ยวกับตนเอง เรื่องต่างๆ ใกล้ตัว สถานการณ์ ข่าว เรื่องที่อยู่ในความสนใจของสังคม และสื่อสารอย่างต่อเนื่องและเหมาะสม
          ต 1.2/4 พูดและเขียนเพื่อขอและให้ข้อมูล อธิบาย เปรียบเทียบ และแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องที่ฟังหรืออ่านอย่างเหมาะสม
            ต 1.2/5 พูดและเขียนบรรยายความรู้สึกและความคิดเห็นของตนเองเกี่ยวกับเรื่องต่างๆ กิจกรรม ประสบการณ์ และข่าว/เหตุการณ์ พร้อมทั้งให้เหตุผลประกอบอย่างเหมาะสม

จุดประสงค์การเรียนรู้
            1. นักเรียนสรุปใจความสำคัญของเรื่องที่อ่านได้
            2. นักเรียนบอกความหมายของคำศัพท์จากบทเรียนได้
            3. นักเรียนเดาความหมายของคำศัพท์จากบริบทได้
            4. นักเรียนบอกรายละเอียดของเรื่องที่อ่านได้

สาระสำคัญ
            นักเรียนจะได้เรียนรู้ว่าความเปลี่ยนแปลงในโลกนี้ว่าเกิดจากความคิดของคนเพียงไม่กี่คน แม้จะเพียงเล็กน้อย ก็พลิกโฉมหน้าประเทศของเขาได้ และช่วยให้ความเป็นอยู่ของผู้คนดีขึ้น ได้รับความรูไวยากรณ์เรื่อง Present perfect tense



คุณลักษณะอันพึงประสงค์
            - รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์
            - ซื่อสัตย์สุจริต
            - อยู่อย่างพอเพียง
            - มีจิตสาธารณะ

สมรรถนะ
            - มีความสามารถในการสื่อสาร
            - มีความสามารถในการคิด
            - มีความสามารถในการใช้เทคโนโลยี

กิจกรรมการจัดการเรียนการสอน
นักเรียน
อาจารย์
1. การเชิญชวน
    1.1 นักเรียนตอบคำถาม (Possible answers : Yes, I do./ No, I don’t.)
1. การเชิญชวน
    1.1 อาจารย์กล่าวว่า : You read about famous people in newspaper. Do you know anybody who makes a big difference in a small way?
2. การให้ข้อมูลป้อนกลับ
    2.1 นักเรียนตอบคำถาม (Possible answers : Yes, I do./ No, I don’t.))
2. การให้ข้อมูลป้อนกลับ
    2.1 อาจารย์ถามนักเรียนว่า : Do you know Mohammed Yunus and Nancy Lublin?, They have made  a big difference in a small way.
3. การสร้างความเข้าใจร่วมกัน
    3.1 นักเรียนรับแจกใบความรู้เรื่อง People who made a Big Difference-in
a Small Way
    3.2 นักเรียนอ่านทำความเข้าใจและสอบถามคำศัพท์ที่ไม่เข้าใจ
3. การสร้างความเข้าใจร่วมกัน
    3.1 อาจารย์แจกใบความรู้เรื่อง เรื่อง people who made a big difference-in a small Way
    3.2 อาจารย์ตอบคำถามเกี่ยวกับคำศัพท์ เช่น charitable=ใจกว้าง, ใจบุญ, เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่; earthquake=แผ่นดินไหว; economics=เศรษฐกิจ; borrow=ยืม, กู้ยืม; earn= ได้รับ, หาได้, หาเลี้ยงชีพ; enough=เพียงพอพอดี;
นักเรียน
อาจารย์

loan=เงินกู้, ของที่ให้ยืม; micro-entrepreneur= ผู้ประกอบการขนาดเล็ก; lawyer=ทนายความ, นักกฎหมาย; inheritance= การสืบทอด, มรดก; church=โบสถ์; basement=ชั้นใต้ดิน, ห้องใต้ดิน, ใต้ถุนตึก; rack=ราว, ชั้นวางของ, หิ้ง, ไม้แทงบิลเลียด; outfit=เครื่องแต่งกาย, เครื่องมือทั้งชุด; confidence=ความมั่นใจ, ความเชื่อมั่นในตนเอง, ความลับ
4. การยืดหยุ่น
    4.1 นักเรียนจับคู่กับเพื่อนอ่านและอภิปรายใจความของเนื้อเรื่องร่วมกัน
4.  การยืดหยุ่น
    4.1 อาจารย์ให้นักเรียนจับคู่กันอ่านและอภิปราย ใจความของเนื้อเรื่องร่วมกัน (Work in pairs : read and discuss)
5. ส่งเสริมการกำกับตนเอง
    5.1 นักเรียนทำแบบฝึกหัดทักษะความสามารถในการอ่านท้ายบทเรียน
    5.2 นักเรียนสอบถามข้อสงสัยเกี่ยวกับการทำแบบฝึกหัด
5. ส่งเสริมการกำกับตนเอง
    5.1 อาจารย์แจกแบบฝึกหัดทักษะความสามารถในการอ่านท้ายบทเรียน ให้นักเรียนทำ
    5.2 อาจารย์ตอบข้อสงสัยเกี่ยวกับการทำแบบฝึกหัด
6. สื่อความเข้าใจ
    6.1 นักเรียนร่วมกันอภิปรายความหมาย ของเนื้อเรื่องที่อ่าน โดยแบ่งเป็นหัวข้อภาษาอังกฤษ
6. สื่อความเข้าใจ
    6.1 อาจารย์ให้นักเรียนร่วมกันอภิปรายความหมาย ของเนื้อเรื่องที่อ่าน โดยแบ่งเป็นหัวข้อภาษาอังกฤษ โดยมีอาจารย์คอยช่วยสอน ยกตัวอย่างเช่น
        - Mohamed Yunus, a professor from Bangladesh, has helped many people with his bank.



นักเรียน
อาจารย์

        - When he was a teacher of economics, he thought of micro-credit.
        - The idea is to lend small amounts of money to the poor to start a small business.
        - Yunus started the Grameen Bank in the mid-1970s.
        - The bank has loaned out almost a billion dollars, and it now lends to 1.6 million micro-entrepreneurs.
        - Nancy Lublin received an inheritance that changed her life and the lives of others.
        - She decided to use the inherited money to help others.
        - She started a program that gave poor women nice clothes for job interviews.
        - She has helped thousands of people since she opened Dress for Success in New York in 1997.
        - She set up her shop in a church basement.
        - Charitable organizations send poor women who are looking for jobs to Lublin’s basement.
        - She says that new clothes give women new confidence.




นักเรียน
อาจารย์
7. สรุปงาน
    7.1 นักเรียนตรวจคำตอบแบบฝึกหัด
    7.2 นักเรียนซักถามข้อสงสัยเกี่ยวกับแบบฝึกหัด
7.  สรุปงาน
    7.1 อาจารย์เฉลยแบบฝึกหัด ดังนี้
Answer the questions about the reading.
1.      What work was Yunus doing when he thought of the Grameen Bank?
-          A teacher of economics
2.      What did his plan consist of?
-          Simple concept: micro-credit
3.      How long has Yunus had his bank?
-          Since the mid 1970s (more than 40 years)
4.      Where did Lublin get the money to start her charity work?
-          The money was inherited from her great-grandfather.
5.      How did she help people?
-          She gave poor women nice clothes for job interviews.
Find the words in the reading with the following definitions.
1.      Money given to charity (first paragraph) - donation
2.      Idea (second paragraph)
concept
3.      Money that you promise to pay back (second paragraph)
loan
4.      Money that you receive when someone dies (fourth paragraph)
inheritance


นักเรียน
อาจารย์

5.      Feelling the you can do things well (fifth paragraph)
confidence
Fill in the blanks with the words given.
1.      A building was destroyed by an earthquake.
2.      He was the victim  of an error.
3.      She bought a new outfit for the party.
4.      It takes time to build confidence when you are learning a new skill.
Will you see if we can borrow a cup of sugar from the neighbors?

สื่อ                                  
            - ใบความรู้ที่ 6
            - ใบงานที่ 6

8. การประเมินเชิงรุก    

จุดประสงค์
เครื่องมือที่ใช้
ในการวัดและประเมินผล
เกณฑ์การวัดและประเมินผล
1. นักเรียนสรุปใจความสำคัญของเรื่องที่อ่านได้
2. นักเรียนบอกความหมายของคำศัพท์จากบทเรียนได้
3. นักเรียนเดาความหมายของคำศัพท์จากบริบทได้
4. นักเรียนบอกรายละเอียดของเรื่องที่อ่านได้
- แบบฝึกหัดท้ายบทเรียน
8-9 คะแนน ดีเยี่ยม
6-7 คะแนน ดี
4-5 คะแนน ผ่าน
0-3 คะแนน ไม่ผ่าน



บันทึกผลหลังการสอน
- ผลที่เกิดขึ้นกับผู้เรียน
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

- ปัญหาที่พบ
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

- แนวทางในการพัฒนาและแก้ไข
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
                                      
                  
                                                          ลงชื่อ .............................................ผู้บันทึก
                                                                  (นางสาวปิลันธร มั่นพันธ์พาณิชย์)


ภาคผนวก ค
            - ใบความรู้ที่ เรื่อง People Who Made a Big Difference-in a Small Way
            - ใบงานที่ เรื่อง People Who Made a Big Difference-in a Small Way




แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 7
หน่วยการเรียนรู้เรื่อง    Customs and Cultures
รหัสวิชา อ23206                                              วิชา ภาษาอังกฤษเพื่อการศึกษาต่อ 2
กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ (สาระการเรียนรู้เพิ่มเติม)
ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3                                                                 เวลา 1 คาบ

มาตรฐาน ต 2.2
            เข้าใจความเหมือนและความแตกต่างระหว่างภาษาวัฒนธรรมของเจ้าของภาษากับภาษาและวัฒนธรรมไทย และนำมาใช้อย่างถูกต้องและเหมาะสม

ตัวชี้วัด
               ต 2.2/1 เปรียบเทียบและอธิบายความเหมือนและความแตกต่างระหว่างการออกเสียงประโยคชนิดต่างๆ และการลำดับคำตามโครงสร้างทางประโยคของภาษาต่างประเทศและภาษาไทย
            ต 2.2/2 เปรียบเทียบและอธิบายความเหมือนและความแตกต่างระหว่างชีวิตความเป็นอยู่และวัฒนธรรมของเจ้าของภาษากับของไทย และนำไปใช้อย่างเหมาะสม

จุดประสงค์การเรียนรู้
            1. นักเรียนสรุปใจความสำคัญของเรื่องที่อ่านได้
            2. นักเรียนเดาความหมายของคำศัพท์จากบริบทได้
            3. นักเรียนบอกรายละเอียดของเรื่องที่อ่านได้
            4. นักเรียนใช้รูปแบบคำกริยาได้ถูกต้องตามกาล

สาระสำคัญ
            นักเรียนจะได้เรียนรู้เกี่ยวกับการวัฒนธรรมในหลายประเทศที่มักจะมีนักท่องเที่ยวเดินทางไปเยี่ยมชม ได้เรียนรู้ไวยากรณ์ เรื่อง Present simple tense

คุณลักษณะอันพึงประสงค์
            - ซื่อสัตย์สุจริต
            - มีวินัย
            - ใฝ่เรียนรู้
            - มีจิตสาธารณะ
สมรรถนะ
            - มีความสามารถในการสื่อสาร
            - มีความสามารถในการคิด
            - มีความสามารถในการแก้ปัญหา
            - มีความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต

กิจกรรมการจัดการเรียนการสอน
นักเรียน
อาจารย์
1. การเชิญชวน
    1.1 นักเรียนตอบคำถาม (Answers will vary.)
    1.2 นักเรียนช่วยกันอภิปรายว่าต่างประเทศมีวัฒนธรรมประจำชาติกันหรือไม่
1. การเชิญชวน
    1.1 อาจารย์ถามนักเรียน :  What do you think is the outstanding Thai culture?
    1.2 อาจารย์ให้นักเรียนช่วยกันอภิปรายว่าต่างประเทศมีวัฒนธรรมประจำชาติกันหรือไม่ เช่น อเมริกา อังกฤษ ออสเตรเลียน ญี่ปุ่น (Discuss whether foreign countries have their own culture or not?)
2. การให้ข้อมูลป้อนกลับ
    2.1 นักเรียนช่วยกันคิดว่า เรื่องเกี่ยวกับการขับรถ ความเชื่อ โชคลาง ความเชื่อเรื่อง
ความฝัน การเข้าเมืองตาหลิ่วต้องหลิ่ตาตาม
สิ่งที่ควรทำปละไม่ควรทำในแต่ละท้องถิ่น
มีความเกี่ยวข้องกับวัฒนธรรมและประเพณีของชาวต่างชาติหรือไม่
2. การให้ข้อมูลป้อนกลับ
2.1 อาจารย์ให้นักเรียนช่วยกันคิด อภิปรายเรื่องเกี่ยวกับการขับรถ การเข้าเมืองตาหลิ่วต้องหลิ่วตาตาม การขับรถ เรื่องที่พักอาศัย สิ่งที่ควรทำและไม่ควรทำในแต่ละท้องถิ่น มีความเกี่ยวข้องกับวัฒนธรรมและประเพณีของชาวต่างชาติหรือไม่
3. การสร้างความเข้าใจร่วมกัน
    3.1 นักเรียนสอบถามเกี่ยวกับเรื่องที่อาจารย์แจ้งให้ทราบ
    3.2 นักเรียนรับแจกใบความรู้เรื่อง Tips to International Travelers และสอบถามคำศัพท์ที่ไม่เข้าใจ
3. การสร้างความเข้าใจร่วมกัน
    3.1 อาจารย์แจ้งนักเรียนให้ทราบว่าหน่วยนี้ชื่อหน่วยCustoms and Cultures มีหัวข้อเรื่อง ดังนี้
        - Tips to International Travelers
        - When In Rome, Do As The Romans Do
        - The Kangaroo Generation


นักเรียน
อาจารย์

        - Is right, right?
        - Making Life Decisions
    3.2 อาจารย์แจกใบความรู้เรื่อง Tips to International Travelers และนี่คือบทแรกและตอบคำถามเกี่ยวกับคำศัพท์ที่นักเรียนไม่เข้าใจ เช่น tip= เงินตอบแทนเล็กน้อย, ปลาย, ข้อแนะนำ, เกร็ดความรู้; stand in line=ยืนเป็นแถวตรง; queue=เข้าคิว; cheek=แก้ม; polite=สุภาพ; prepare=เตรียม; exchange=แลกเปลี่ยน; impolite= ไม่สุภาพ; appreciation= ความชื่นชม, การซาบซึ้ง; gesture=อากัปกริยาที่แสดงออก; offensive=ไม่พอใจ, ข้อรังเกียจ
4. การยืดหยุ่น
    4.1 นักเรียนจับคู่กันอ่านทำความเข้าใจและอภิปรายร่วมกัน
    4.2 นักเรียนฟังอาจารย์ให้แง่คิดเกี่ยวกับเรื่อง Tips to International Travelers
4. การยืดหยุ่น
    4.1 อาจารย์ให้นักเรียนจับคู่กันอ่านทำความเข้าใจ และอภิปรายร่วมกัน (Work in pairs : read and discuss)
    4.2 อาจารย์ให้แง่คิดว่า : If you travel to other countires,  you should know how to behave.
5. ส่งเสริมการกำกับตนเอง
    5.1 นักเรียนรับแจกแบบฝึกทักษะความสามารถในการอ่านท้ายบทเรียน
    5.2 นักเรียนสอบถามข้อสงสัยเกี่ยวกับ
การทำแบบฝึกหัด หรือคำศัพท์ที่เกี่ยวข้อง
5. ส่งเสริมการกำกับตนเอง
    5.1 อาจารย์แจกแบบฝึกทักษะความสามารถในการอ่านท้ายบทเรียน
    5.2 อาจารย์ตอบคำถามเกี่ยวกับวิธีการทำแบบฝึกหัด หรือคำศัพท์ที่เกี่ยวข้อง
6. สื่อความเข้าใจ
    6.1 นักเรียนช่วยกันสรุปเนื้อหาเป็นหัวข้อภาษาอังกฤษ
6. สื่อความเข้าใจ
    6.1 อาจารย์ให้นักเรียนช่วยกันสรุปเนื้อหาเป็นหัวข้อภาษาอังกฤษ และคอยช่วยเสริมในแต่ละหัวข้อ ตัวอย่างการสรุปเช่น
         - It is common to tip porters, taxi drivers, and waiters.

นักเรียน
อาจารย์

        - Waiters and taxi drivers expect to get 15 percent tip of the cost.
        - In Italy and Mexico, all university graduates have a title, and they usually expect you to use it.
        - In England, make sure to stand in line (queue) even if there are only two of you.
        - It’s a good idea to talk about the weather.
        - In Spain, it’s advisable to have a light snack in the afternoon if someone invites you for dinner. People eat meals very late, and restaurants do not generally open until after 9 P.M.
    - In Arab countries, men kiss one
another on the cheek.

        - In Japan, be prepared to exchange personal or business cards. When a person gives you a card, don’t put into your pocket right away.
        - In most Asian countries, people do not touch or show any sign of affection in public.
        - A gesture that is acceptable in one culture may be offensive in another.
7. สรุปงาน
    7.1 นักเรียนส่งการบ้านจากคาบที่แล้ว
    7.2 นักเรียนตรวจคำตอบแบบฝึกหัดและซักถามข้อสงสัย
7. สรุปงาน
    7.1 อาจารย์ให้นักเรียนส่งการบ้านจากคาบที่แล้ว
    7.2 อาจารย์ตรวจคำตอบแบบฝึกหัดและตอบข้อสงสัยของนักเรียน เฉลยมีดังนี้

นักเรียน
อาจารย์

Answer true or false. 
        1. T You should always remember to tip in the United States.
        2. It’s not a good idea to discuss the weather in England. 
        3. Remember not to kiss a person in public in Asia. 
        4. T It’s advisable not to go out to dinner early in Spain.
        5. You should call people by their first names in Mexico.
        6. Be sure to carry business cards with you to Japan.

Make sentences. Use infinitives.
        1. good idea/ eat chicken/fingers
       - It’s a good idea to eat chicken by fingers.
        2. children/ pretend/ not hear me
        - Children pretend not to hear me.
        3. try/ not get nervous/ over small things
        - I try not to get nervous over small things.
        4. advisable/ not park car/ this street
       - It advisable not to park cars in this street.
        5. be sure/ tip porter/ brings bags
        - Please be sure to tip the porter who brings bags.
        6. we managed/ get seats/ crowded bus
     
นักเรียน
อาจารย์

    - We managed to get seats in a crowded bus.
Complete the following sentences.
        1. It’s advisable to have a light snack in the afternoon if someone invites you for dinner in Spain.
        2. It’s not polite to not respect lines in England.
        3. It’s important not to touch or show any sign of affection in public in Asia.

        4. It’s not common to call their name
in Mexico.
        5. It’s a good idea to tip 15 percent of the cost in the United States.
Complete the sentences with the correct from-the gerund or the infinitive.
        1. We enjoyed driving  (drive) along that scenic route on our way to the sea
        2. Carol managed to change  (change) the tire in the dark.
        3. I refuse to see (see) horror movies.
        4. The people in the restaurant didn’t mean to be (be) rude.
        5. I kept looking  (look) until I found a good place to eat dinner.
        6. Carlos promised to arrive  (arrive) on time, but he was almost an hour late.
        7. I can’t stand waiting  (wait) in long lines.
นักเรียน
อาจารย์

        8. Please remember to lock  (lock) the door when you leave.

   Fill in the blanks with the words given.
        1. For mad scientists who keep brains in jars, here's a tip why not add a slice of lemon to each jar, for freshness.
        2. We were force to stand in a queue.

        3. Justin gave her a flower and kiss on a cheek.
       4. It was polite of him to hold the door for them.
       5. Specific gesture  can indicate particular moods.

สื่อ                                  
            - ใบความรู้ที่ 7
            - ใบงานที่ 7

8. การประเมินเชิงรุก    

จุดประสงค์
เครื่องมือที่ใช้
ในการวัดและประเมินผล
เกณฑ์การวัดและประเมินผล
1. นักเรียนสรุปใจความสำคัญของเรื่องที่อ่านได้
2. นักเรียนเดาความหมายของคำศัพท์จากบริบทได้
3. นักเรียนบอกรายละเอียดของเรื่องที่อ่านได้
4. นักเรียนใช้รูปแบบคำกริยาได้ถูกต้องตามกาล
- แบบฝึกหัดท้ายบทเรียน
8-9 คะแนน ดีเยี่ยม
6-7 คะแนน ดี
4-5 คะแนน ผ่าน
0-3 คะแนน ไม่ผ่าน
บันทึกผลหลังการสอน
- ผลที่เกิดขึ้นกับผู้เรียน
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

- ปัญหาที่พบ
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

- แนวทางในการพัฒนาและแก้ไข
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

                                                         
                                                          ลงชื่อ .............................................ผู้บันทึก
                                                                 (นางสาวปิลันธร มั่นพันธ์พาณิชย์)


ภาคผนวก ค
            - ใบความรู้ที่ เรื่อง Tips to International Travelers
            - ใบงานที่ เรื่อง Tips to International Travelers









แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 8
หน่วยการเรียนรู้เรื่อง    Customs and Cultures
รหัสวิชา อ23206                                              วิชา ภาษาอังกฤษเพื่อการศึกษาต่อ 2
กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ (สาระการเรียนรู้เพิ่มเติม)
ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3                                                                เวลา 1 คาบ

มาตรฐาน ต 2.2
            เข้าใจความเหมือนและความแตกต่างระหว่างภาษาและวัฒนธรรมของเจ้าของภาษากับภาษาและวัฒนธรรมไทย และนำมาใช้อย่างถูกต้องและเหมาะสม
ตัวชี้วัด
               ต 2.2/1 เปรียบเทียบและอธิบายความเหมือนและความแตกต่างระหว่างการออกเสียงประโยคชนิดต่างๆ และการลำดับคำตามโครงสร้างประโยคของภาษาต่างประเทศและภาษาไทย
               ต 2.2/2 เปรียบเทียบและอธิบายความเหมือนและความแตกต่างระหว่างชีวิต
ความเป็นอยู่และวัฒนธรรมของเจ้าของภาษากับของไทย และนำไปใช้อย่างเหมาะสม

จุดประสงค์การเรียนรู้
            1. นักเรียนสรุปใจความสำคัญของเรื่องที่อ่านได้
            2. นักเรียนบอกความหมายของคำศัพท์จากบทเรียนได้
            3. นักเรียนเดาความหมายของคำศัพท์จากบริบทได้
            4. นักเรียนบอกรายละเอียดของเรื่องที่อ่านได้
            5. นักเรียนบอกความหมายของคำที่ใช้อ้างอิงถึงคำนามที่กล่าวมาแล้ว

สาระสำคัญ
            นักเรียนได้เรียนรู้เกี่ยวกับวัฒนธรรมการทักทาย การพบปะกันของชาวต่างชาติ และได้ความรู้เกี่ยวกับไวยากรณ์เรื่อง Present simple tense

คุณลักษณะอันพึงประสงค์
            - รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์
            - ซื่อสัตย์สุจริต
            - มุ่งมั่นในการทำงาน
            - รักความเป็นไทย

สมรรถนะ
            - มีความสามารถในการสื่อสาร
            - มีความสามารถในการคิด
            - มีความสามารถในการแก้ปัญหา
            - มีความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต

กิจกรรมการจัดการเรียนการสอน

นักเรียน
อาจารย์
1. การเชิญชวน
    1.1 นักเรียนตอบคำถามเกี่ยวกับวัฒนธรรมประเพณีในประเทศไทย (Possible answers : Yes, I do./ No, I don’t.
    1.2 นักเรียนตอบคำถาม (Answers will vary.)
1. การเชิญชวน
    1.1 อาจารย์ถามนักเรียนเกี่ยวกับวัฒนธรรมประเพณีในประเทศไทย : What are some good things in Thai culture?
    1.2 อาจารย์ถามนักเรียนว่า :  When we go abroad, what should we do?
2. การให้ข้อมูลป้อนกลับ
    2.1 นักเรียนสอบถามข้อสงสัยเกี่ยวกับหัวข้อที่จะเรียน
2. การให้ข้อมูลป้อนกลับ
    2.1 อาจารย์แจ้งนักเรียนว่าเราจะเรียนเกี่ยวกับ การไปต่างบ้านต่างเมืองเราควรทำอย่างไร การทำตามอย่างที่ผู้อื่นทำตรงกับหัวข้อเรื่องนี้เลยคือ when in Rome, do as the Romans do.
3. การสร้างความเข้าใจร่วมกัน
    3.1 นักเรียนรับแจกใบความรู้เรื่อง When in Rome, do as Roman do.
3. การสร้างความเข้าใจร่วมกัน
    3.1 อาจารย์แจกใบความรู้เรื่อง when in Rome, do as the Romans do.
    3.2 นักเรียนอ่านทำความเข้าใจและสอบถามคำศัพท์ที่ไม่เข้าใจ
    3.2 อาจารย์ตอบคำถามเกี่ยวกับคำศัพท์ เช่น hugging=การกอด; distance=ระยะห่าง; especially=โดยเฉพาะ; acceptable= เป็นที่ยอมรับ; approximately=โดยเฉลี่ย; lack=ขาดแคลน, บกพร่อง, ไม่มี, ไร้; respect=เคารพ; colleagues=เพื่อนร่วมงาน; literally=อย่างแท้จริง, เป็นไปตามตัวอักษร; keep in touch= ให้ติดต่อ; tolerant=อดกลั้น, ใจกว้าง, ให้อภัย; fashionable= ทันสมัย, นำสมัย, ตามสมัยนิยม เป็นต้น
นักเรียน
อาจารย์
4. การยืดหยุ่น
    4.1 นักเรียนจับคู่กับเพื่อนอ่าน อภิปรายทำความเข้าใจร่วมกัน
    4.2 นักเรียนฟังอาจารย์ให้ข้อคิด
4. การยืดหยุ่น
    4.1 อาจารย์ให้นักเรียนจับคู่กับเพื่อนอ่าน อภิปราย ร่วมกัน (Work in pairs : read and discuss)
    4.2 อาจารย์ให้ข้อคิดว่าเวลาเราไปที่ใด ใครทำอะไรเราควรดูและทำตามเขาบ้าง เพื่อไม่ให้เสียมารยาท หรือเราควรศึกษาว่าที่นั้นๆ เราควรทำตัวอย่างไรบ้าง
5. ส่งเสริมการกำกับตนเอง
    5.1 นักเรียนทำแบบฝึกหัดทักษะความสามารถในการอ่านท้ายบทเรียน
    5.2 นักเรียนสอบถามข้อสงสัยเกี่ยวกับการทำแบบฝึกหัด
5. ส่งเสริมการกำกับตนเอง
    5.1 อาจารย์แจกแบบฝึกหัดทักษะความสามารถ ท้ายบทเรียนให้นักเรียนทำ
    5.2 อาจารย์ตอบข้อสงสัยเกี่ยวกับการทำแบบฝึกหัด
6. สื่อความเข้าใจ
    6.1 นักเรียนช่วยกันสรุปใจความสำคัญเป็นหัวข้อภาษาอังกฤษ
6. สื่อความเข้าใจ
    6.1 อาจารย์ให้นักเรียนช่วยกันสรุปใจความสำคัญเป็นหัวข้อภาษาอังกฤษ และอาจารย์คอยช่วยเสริม ตัวอย่างที่สรุป เช่น


        - In Latin America, it is a common for male and female friends to kiss one another on the cheek.
        - In Brazil, people kiss one another twice or even three times, especially if they are young and unmarried.
       - People from Latin cultures like to touch and hug one another but not in United States.
       - American might kiss family members, and they usually shake hands when they first meet.
       - The acceptable distance is approximately 16 inches (40 centimeters).
นักเรียน
อาจารย์

       - In some Asian countries, when you look someone in the eyes, this may be a sign of lack of respect.
        - In the U.S., it is polite to make eye contact when you are talking to someone.
        - In the U.S., it is common for new friends and work colleagues to call each other by their first names.
- If you want to be more formal, use Mr., Mrs., or Ms.
        - It is not very common for Americans to bring business into their home. When they get to know you, and you become friends.

They might invite you and your family for a meal in their house, but that does not mean that  you can take your entire family and friends with you.
        - In Latin America, a couple of extra guests are usually welcome. And don’t take “come and see us some time” literally. It actually means “keep in touch.”
       - Americans are not tolerant of lateness, particularly for business meetings and only a little less for social occasions.
       - In some countries, it is fashionable to be late.
       - People of Latin cultures like to talk and talk loudly.
       - It is acceptable to sing “Happy Birthday” to someone in a U.S. restaurant.
นักเรียน
อาจารย์
7. สรุปงาน
    7.1 นักเรียนช่วยกันเฉลยและตรวจคำตอบในแบบฝึกหัด
    7.2 นักเรียนส่งแบบฝึกหัด
7. สรุปงาน
    7.1 อาจารย์ให้นักเรียนช่วยกันเฉลยและตรวจ คำตอบในแบบฝึกหัด มีเฉลย ดังนี้
Complete the sentences. Use the information in the reading.
        1. It’s not common for men and women to kiss one another in public in the United States.
        2. You should  look someone in the eyes when you   talk to someone in the United States.

        3. In some Asian countries, it’s not polite  to look someone in the eyes.
        4. In Latin America, it’s OK  to invite a couple of extra guests to dinner.
        5. Make sure you arrive on time for business meeting in the United States.
        6. It’s rude  to talk loudly in a U.S. restaurant.
Match the words with their definitions.
        1. e. accepting tolerant  
        2. c. to plan to schedule
        3. d. someone you invite guest
        4. b. providing food and amusement entertainment
        5. a. people you work with colleagues
Complete the chart .
        - Various answers.
Fill in the blanks with the words given.
        1. She attended a school where there were more males than females.

นักเรียน
อาจารย์

        2. This is approximately the location of the ancient city.
        3. The soldiers saluted as a sign of respect.

        4. Although John is away he still keeps in touch by e-mail.
        5. This job requires a tolerant  person who is used to dealing with complaints and anger.

สื่อ                                  
            - ใบความรู้ที่ 8
            - ใบงานที่ 8

8. การประเมินเชิงรุก    

จุดประสงค์
เครื่องมือที่ใช้
ในการวัดและประเมินผล
เกณฑ์การวัดและประเมินผล
1. นักเรียนสรุปใจความสำคัญของเรื่องที่อ่านได้
2. นักเรียนบอกความหมายของคำศัพท์จากบทเรียนได้
3. นักเรียนเดาความหมายของคำศัพท์จากบริบทได้
4. นักเรียนบอกรายละเอียดของเรื่องที่อ่านได้
5. นักเรียนบอกความหมายของคำที่ใช้อ้างอิงถึงคำนามที่กล่าวมาแล้ว
- แบบฝึกหัดท้ายบทเรียน
8-9 คะแนน ดีเยี่ยม
6-7 คะแนน ดี
4-5 คะแนน ผ่าน
0-3 คะแนน ไม่ผ่าน



บันทึกผลหลังการสอน
- ผลที่เกิดขึ้นกับผู้เรียน
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

- ปัญหาที่พบ
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

- แนวทางในการพัฒนาและแก้ไข
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

                                                         
                                                          ลงชื่อ .............................................ผู้บันทึก
                                                                   (นางสาวปิลันธร มั่นพันธ์พาณิชย์)

ภาคผนวก ค
            - ใบความรู้ที่ เรื่อง When In Rome, Do As The Romans Do
            - ใบงานที่ เรื่อง       When In Rome, Do As The Romans Do



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น