หลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน
กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ พุทธศักราช 2551
การศึกษาและทำความเข้าใจกรอบแนวคิดความเป็นมาหลักการจุดหมายโครงสร้างและและจุดเน้นของหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐานพุทธศักราช
2551
เป็นสิ่งที่มีความสำคัญและจำเป็นยิ่งเพื่อเป็นกรอบทิศทางในการกำหนดสาระขององค์ประกอบต่างๆ
ของหลักสูตรสถานศึกษาอันจะทำให้การพัฒนาผู้เรียนเป็นไปอย่างมีเอกภาพ
บรรลุตามมาตรฐานการศึกษาขั้นพื้นฐานของชาติ และในขณะเดียวกันก็สัมพันธ์
สอดคล้องและสนองความต้องการของผู้เรียน ชุมชนและท้องถิ่นด้วย ดังที่หลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน
กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ พุทธศักราช 2551
มีดังต่อไปนี้ (สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน, 2551, หน้า 220-243)
มีดังต่อไปนี้ (สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน, 2551, หน้า 220-243)
1. ทำไมต้องเรียนภาษาต่างประเทศ
ในสังคมโลกปัจจุบัน
การเรียนรู้ภาษาต่างประเทศมีความสำคัญและจำเป็นอย่างยิ่งในชีวิตประจำวัน
เนื่องจากเป็นเครื่องมือสำคัญในการติดต่อสื่อสาร การศึกษาแสวงหาความรู้
การประกอบอาชีพ การสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับวัฒนธรรมและวิสัยทัศน์ของชุมชนโลก และตระหนักถึงความหลากหลายทางวัฒนธรรมและมุมมองของสังคมโลก นำมาซึ่งมิตรไมตรีและ
ความร่วมมือกับประเทศต่างๆ ช่วยพัฒนาผู้เรียนให้มีความเข้าใจตนเองและผู้อื่นดีขึ้น เรียนรู้และเข้าใจความแตกต่างของภาษาและวัฒนธรรม ขนบธรรมเนียม ประเพณี การคิด สังคม เศรษฐกิจ การเมืองการปกครอง มีเจตคติที่ดีต่อการใช้ภาษาต่างประเทศ และใช้ภาษาต่างประเทศเพื่อการสื่อสารได้ รวมทั้งเข้าถึงองค์ความรู้ต่างๆ ได้ง่ายและกว้างขึ้น และมีวิสัยทัศน์ในการดำเนินชีวิต
การประกอบอาชีพ การสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับวัฒนธรรมและวิสัยทัศน์ของชุมชนโลก และตระหนักถึงความหลากหลายทางวัฒนธรรมและมุมมองของสังคมโลก นำมาซึ่งมิตรไมตรีและ
ความร่วมมือกับประเทศต่างๆ ช่วยพัฒนาผู้เรียนให้มีความเข้าใจตนเองและผู้อื่นดีขึ้น เรียนรู้และเข้าใจความแตกต่างของภาษาและวัฒนธรรม ขนบธรรมเนียม ประเพณี การคิด สังคม เศรษฐกิจ การเมืองการปกครอง มีเจตคติที่ดีต่อการใช้ภาษาต่างประเทศ และใช้ภาษาต่างประเทศเพื่อการสื่อสารได้ รวมทั้งเข้าถึงองค์ความรู้ต่างๆ ได้ง่ายและกว้างขึ้น และมีวิสัยทัศน์ในการดำเนินชีวิต
ภาษาต่างประเทศที่เป็นสาระการเรียนรู้พื้นฐาน
ซึ่งกำหนดให้เรียนตลอดหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐษน คือ ภาษาอังกฤษ
ส่วนภาษาต่างประเทศอื่น เช่น ภาษาฝรั่งเศส เยอรมัน จีน ญี่ปุ่น อาหรับ บาลี และภาษากลุ่มประเทศเพื่อนบ้าน
หรือภาษาอื่นๆ ให้อยู่ในดุลยพินิจของสถานศึกษาที่จะจัดทำรายวิชาและจัดการเรียนรู้ตามความเหมาะสม
2. เรียนรู้อะไรในภาษาต่างประเทศ
กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ
มุ่งหวังให้ผู้เรียนมีเจตคติที่ดีต่อภาษาต่างประเทศ
สามารถใช้ภาษาต่างประเทศสื่อสารในสถานการณ์ต่างๆ แสวงหาความรู้ ประกอบอาชีพ
และศึกษาต่อในระดับที่สูงขึ้น รวมทั้งมีความรู้ความเข้าใจในเรื่องราวและวัฒนธรรมอันหลากหลายของประชาคมโลก
และสามารถถ่ายทอดความคิดและวัฒนธรรมไทยไปยังสังคมโลกได้อย่างสร้างสรรค์
ประกอบด้วยสาระสำคัญ ดังนี้
1. ภาษาเพื่อการสื่อสาร
การใช้ภาษาต่างประเทศในการฟัง-พูด-อ่าน-เขียน แลกเปลี่ยนข้อมูล ข่าวสาร
แสดงความรู้สึกและความคิดเห็น ตีความ นำเสนอข้อมูล
ความคิดรวบยอดและความคิดเห็นในเรื่องต่างๆ
และสร้างความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลอย่างเหมาะสม
2. ภาษาและวัฒนธรรม
การใช้ภาษาต่างประเทศตามวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา
ความสัมพันธ์
ความเหมือน ความแตกต่างระหว่างภาษาและวัฒนธรรมของเจ้าของภาษากับภาษาและ
วัฒนธรรมไทย และนำไปใช้อย่างเหมาะสม
ความเหมือน ความแตกต่างระหว่างภาษาและวัฒนธรรมของเจ้าของภาษากับภาษาและ
วัฒนธรรมไทย และนำไปใช้อย่างเหมาะสม
3. ภาษากับความสัมพันธ์กับกลุ่มสาระการเรียนรู้อื่น
การใช้ภาษาต่างประเทศในการเชื่อมโยงความรู้กับกลุ่มสาระการเรียนรู้อื่น
เป็นพื้นฐานในการพัฒนา แสวงหาความรู้ และเปิดโลกทัศน์ของตน
เป็นพื้นฐานในการพัฒนา แสวงหาความรู้ และเปิดโลกทัศน์ของตน
4. ภาษากับความสัมพันธ์กับชุมชนโลก
การใช้ภาษาต่างประเทศในสถานการณ์ต่างๆ
ทั้งในห้องเรียนและนอกห้องเรียน ชุมชน และสังคมโลก
เป็นเครื่องมือพื้นฐานในการศึกษาต่อ ประกอบอาชีพ และแลกเปลี่ยนเรียนรู้กับสังคมโลก
3.
คุณภาพผู้เรียน เมื่อจบชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3
หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน
พุทธศักราช 2551
กำหนดคุณภาพผู้เรียนจบชั้นมัธยมศึกษาปีที่
3 ไว้ดังนี้
1. ปฏิบัติตามคำขอร้อง
คำแนะนำ คำชี้แจง และคำอธิบายที่ฟังและอ่าน อ่านออกเสียงข้อความ ข่าว โฆษณา นิทาน และบทร้อยกรองสั้นๆ
ถูกต้องตามหลักการอ่าน ระบุ /เขียนสื่อที่ไม่ใช่ความเรียงรูปแบบต่างๆ
สัมพันธ์กับประโยคและข้อความที่ฟังหรืออ่าน เลือก /ระบุหัวข้อเรื่อง
ใจความสำคัญ รายละเอียดสนับสนุน และแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องที่ฟังและอ่านจากสื่อประเภทต่างๆ
พร้อมทั้งให้เหตุผลและยกตัวอย่างประกอบ
2. สนทนาและเขียนโต้ตอบข้อมูลเกี่ยวกับตนเองและเรื่องต่างๆ
ใกล้ตัว สถานการณ์ ข่าวเรื่องที่อยู่ในความสนใจของสังคมและสื่อสารอย่างต่อเนื่องและเหมาะสม
ใช้คำขอร้อง คำชี้แจง และคำอธิบาย ให้คำแนะนำอย่างเหมาะสม พูดและเขียนแสดงความต้องการ
เสนอและให้ความช่วยเหลือตอบรับและปฏิเสธการให้ความช่วยเหลือ พูดและเขียนเพื่อขอและให้ข้อมูล
บรรยาย อธิบายเปรียบเทียบ และแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องที่ฟังหรืออ่านอย่างเหมาะสม
พูดและเขียนบรรยายความรู้สึกและความคิดเห็นของตนเองเกี่ยวกับเรื่องต่างๆ กิจกรรม ประสบการณ์
และข่าว /เหตุการณ์พร้อมทั้งให้เหตุผลประกอบอย่างเหมาะสม
3. พูดและเขียนบรรยายเกี่ยวกับตนเอง
ประสบการณ์ ข่าว /เหตุการณ์ /เรื่อง
/ประเด็นต่างๆ ที่อยู่ในความสนใจของสังคม พูดและเขียนสรุปใจความสำคัญ
/แก่นสาระ หัวข้อเรื่องที่ได้จากการวิเคราะห์เรื่อง /ข่าว /เหตุการณ์ /สถานการณ์ที่อยู่ในความสนใจ
พูดและเขียนแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับกิจกรรม ประสบการณ์ และเหตุการณ์ พร้อมให้เหตุผลประกอบ
4. เลือกใช้ภาษา
น้ำเสียง และกิริยาท่าทางเหมาะกับบุคคลและโอกาส ตามมารยาทสังคมและวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา
อธิบายเกี่ยวกับชีวิตความเป็นอยู่ ขนบธรรมเนียมและประเพณีของเจ้าของภาษา เข้าร่วม/จัดกิจกรรมทางภาษาและวัฒนธรรมตามความสนใจ
5. เปรียบเทียบ
และอธิบายความเหมือนและความแตกต่างระหว่างการออกเสียงประโยคชนิดต่างๆ และการลำดับคำตามโครงสร้างประโยคของภาษาต่างประเทศและภาษาไทย
เปรียบเทียบและอธิบายความเหมือนและความแตกต่างระหว่างชีวิตความเป็นอยู่และวัฒนธรรมของเจ้าของภาษากับของไทย
และนำไปใช้อย่างเหมาะสม
6. ค้นคว้า
รวบรวม และสรุปข้อมูล /ข้อเท็จจริงที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มสาระการเรียนรู้อื่นจากแหล่งการเรียนรู้และนำเสนอด้วยการพูดและการเขียน
7. ใช้ภาษาสื่อสารในสถานการณ์จริง
/สถานการณ์จำลองที่เกิดขึ้นในห้องเรียน สถานศึกษา ชุมชน และสังคม
8. ใช้ภาษาต่างประเทศในการสืบค้น /ค้นคว้า รวบรวม และสรุปความรู้ /ข้อมูลต่างๆ
จากสื่อและแหล่งการเรียนรู้ต่างๆ ในการศึกษาต่อและประกอบอาชีพ เผยแพร่ /ประชาสัมพันธ์ข้อมูล ข่าวสารของโรงเรียน ชุมชน และท้องถิ่น เป็นภาษาต่างประเทศ
9. มีทักษะการใช้ภาษาต่างประเทศ (เน้นการฟัง-พูด-อ่าน-เขียน) สื่อสารตามหัวเรื่องเกี่ยวกับตนเอง
ครอบครัว โรงเรียน สิ่งแวดล้อม อาหาร เครื่องดื่ม เวลาว่างและนันทนาการ สุขภาพและสวัสดิการ
การซื้อ-ขาย ลมฟ้าอากาศ การศึกษาและอาชีพ การเดินทางท่องเที่ยว
การบริการ สถานที่ภาษา และวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ภายในวงคำศัพท์ประมาณ 2,100 - 2,250 คำ (คำศัพท์ที่เป็นนามธรรมมากขึ้น)
10. ใช้ประโยคผสมและประโยคซับซ้อน (Complex Sentences) สื่อความหมายตามบริบทต่างๆ ในการสนทนาทั้งที่เป็นทางการและไม่เป็นทางการ
4.
สาระ มาตรฐานการเรียนรู้ ตัวชี้วัดและสาระการเรียนรู้แกนกลาง ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่
3
สาระที่ 1 ภาษาเพื่อการสื่อสาร
มาตรฐาน
ต 1.1 เข้าใจและตีความเรื่องที่ฟังและอ่านจากสื่อประเภทต่างๆ
และแสดงความคิดเห็นอย่างมีเหตุผล
ดังตาราง 1
ตาราง
1 ตัวชี้วัดและสาระการเรียนรู้ สาระที่ 1 มาตรฐาน ต 1.1
ตัวชี้วัด
|
สาระการเรียนรู้แกนกลาง
|
1.
ปฏิบัติตามคำขอร้อง คำแนะนำ คำชี้แจง และคำอธิบายที่ฟังและอ่าน
|
— คำขอร้อง คำแนะนำ คำชี้แจง
และคำอธิบายในการประดิษฐ์ การบอกทิศทาง ป้ายประกาศต่างๆ การใช้อุปกรณ์
- Passive Voice ที่ใช้ในโครงสร้างประโยคง่ายๆ เช่น is/are + past participle
- คำสันธาน(conjunction) เช่น and/ but/or/
before/after/because etc.
- ตัวเชื่อม (connective words) เช่น First..
Second..Third..Fourth...Next…Then… Finally…etc.
|
2.
อ่านออกเสียงข้อความ ข่าว โฆษณา และบทร้อยกรองสั้นๆ
ถูกต้องตามหลักการอ่าน
|
— ข้อความ ข่าว โฆษณา
และบทร้อยกรอง
— การใช้พจนานุกรม
— หลักการอ่านออกเสียง เช่น
- การออกเสียงพยัญชนะต้นคำและพยัญชนะท้ายคำ
สระเสียงสั้น สระเสียงยาว สระประสม
- การออกเสียงเน้นหนัก-เบา ในคำและกลุ่มคำ
- การออกเสียงเชื่อมโยงในข้อความ
- การแบ่งวรรคตอนในการอ่าน
- การอ่านบทร้อยกรองตามจังหวะ
- การออกเสียงตามระดับเสียงสูง-ต่ำ
ในประโยค
|
ตาราง
1 (ต่อ)
ตัวชี้วัด
|
สาระการเรียนรู้แกนกลาง
|
||
3. ระบุและเขียนสื่อที่ไม่ใช่ความเรียงรูปแบบต่างๆ
ให้สัมพันธ์กับประโยคและข้อความที่ฟังหรืออ่าน
|
— ประโยค ข้อความ
และความหมายเกี่ยวกับตนเอง ครอบครัว โรงเรียน สิ่งแวดล้อม อาหาร เครื่องดื่ม
เวลาว่างและนันทนานการ สุขภาพ
|
||
|
— การตีความ/
ถ่ายโอนข้อมูลให้สัมพันธ์กับสื่อที่ไม่ใช่ความเรียง เช่น สัญลักษณ์ เครื่องหมาย
กราฟ แผนภูมิ ตาราง ภาพสัตว์ สิ่งของ บุคคล สถานที่ต่างๆ โดยใช้ Comparison of adjectives/ adverbs/
Contrast: but, although/ Quantity words เช่น many/ much/
a lot of/ some/ any/ a few/ few/ a little/ little etc.
|
||
4. เลือก/ ระบุหัวข้อเรื่อง ใจความสำคัญ
รายละเอียดสนับสนุน
และแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องที่ฟังและอ่านจากสื่อประเภทต่างๆ พร้อมทั้งให้เหตุผลและยกตัวอย่างประกอบ
|
— การจับใจความสำคัญ เช่น หัวข้อเรื่อง ใจความสำคัญ รายละเอียดสนับสนุน
จากสื่อสิ่งพิมพ์และสื่ออิเล็กทรอนิกส์ เช่น หนังสือพิมพ์ วารสาร วิทยุ โทรทัศน์
เว็บไซต์บนอินเทอร์เน็ต
— คำถามเกี่ยวกับใจความสำคัญของเรื่อง เช่น ใคร
ทำอะไร ที่ไหน เมื่อไร อย่างไร ทำไม ใช่หรือไม่
- Yes/ No Question
- Wh-question
- Or-question
- etc.
— ประโยคที่ใช้ในการแสดงความคิดเห็น
การให้เหตุผลและการยกตัวอย่าง เช่น I think.../ I feel…/ I believe…/ I have
no idea…..
- If clause
- so…that/
such…that
- คำสันธาน (conjunctions) and/ but/
or/
because/ so/ before/ after etc.
|
||
ตาราง
1 (ต่อ)
ตัวชี้วัด
|
สาระการเรียนรู้แกนกลาง
|
|
- Infinitive pronouns : some/ any
/someone/ anyone/ everyone/ one/ ones etc.
|
|
-
Tenses: present simple/ present continuous/ present perfect/ past simple/
future tense etc.
-
Simple sentence/ compound sentence/ complex sentence
|
มาตรฐาน ต 1.2 มีทักษะการสื่อสารทางภาษาในการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร
แสดงความรู้สึกและความคิดเห็นอย่างมีประสิทธิภาพ ดังตาราง 2
แสดงความรู้สึกและความคิดเห็นอย่างมีประสิทธิภาพ ดังตาราง 2
ตาราง
2 ตัวชี้วัดและสาระการเรียนรู้ สาระที่ 1 มาตรฐาน ต 1.2
ตัวชี้วัด
|
สาระการเรียนรู้แกนกลาง
|
1. สนทนาและเขียนโต้ตอบข้อมูลเกี่ยวกับตนเอง
เรื่องต่างๆ ใกล้ตัว สถานการณ์ ข่าว เรื่องที่อยู่ในความสนใจของสังคม
และสื่อสารอย่างต่อเนื่องเหมาะสม
|
—
ภาษาที่ใช้ในการสื่อสารระหว่างบุคคล เช่น การทักทาย กล่าวลา ขอบคุณ ขอโทษ
ชมเชย การพูดแทรกอย่างสุภาพ การชักชวน การแลกเปลี่ยนข้อมูลเกี่ยวกับตนเอง
เรื่องใกล้ตัว สถานการณ์ต่างๆ ในชีวิตประจำวัน การสนทนา/
เขียนข้อมูลเกี่ยวกับตนเองและบุคคลใกล้ตัว สถานการณ์ข่าว เรื่องที่อยู่ในความสนใจในชีวิตประจำวัน
|
2. ใช้คำขอร้อง ให้คำแนะนำ
คำชี้แจง และคำอธิบายอย่างเหมาะสม
|
— คำขอร้อง คำแนะนำ คำชี้แจง
คำอธิบายที่มีขั้นตอนซับซ้อน
|
ตาราง
2 (ต่อ)
ตัวชี้วัด
|
สาระการเรียนรู้แกนกลาง
|
3. พูดและเขียนแสดงความต้องการ เสนอและให้ความช่วยเหลือ
ตอบรับและปฏิเสธการให้ความช่วยเหลือในสถานการณ์ต่างๆ อย่างเหมาะสม
|
—
ภาษาที่ใช้ในการแสดงความต้องการเสนอและให้ความช่วยเหลือ ตอบรับ
และปฏิเสธการให้ความช่วยเหลือในสถานการณ์ต่างๆ เช่น Please…/ ….please./ I’d like…/ I need…/ May/ Can/ Could…?/ Yes…/
Please do.? Certainly./ Yes, of course./ Sure./ Go right ahead./ Need some
help?/ What can I do to help?/ Would you like any help?/ I’m afraid…/ I’m
sorry, but…/ Sorry, but…. etc.
|
4. พูดและเขียนเพื่อขอและให้ข้อมูล
อธิบาย เปรียบเทียบ และแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องที่ฟังหรืออ่านอย่างเหมาะสม
|
— คำศัพท์ สำนวนภาษา ประโยค
และข้อความที่ใช้ในการขอและให้ข้อมูล อธิบาย เปรียบเทียบ
และแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องที่ฟังหรืออ่าน
|
5.
พูดและเขียนบรรยายความรู้สึกและความคิดเห็นของตนเองเกี่ยวกับเรื่องต่างๆ
กิจกรรม ประสบการณ์และข่าว/ เหตุการณ์ พร้อมทั้งให้เหตุผลประกอบอย่างเหมาะสม
|
— ภาษาที่ใช้ในการแสดงความรู้สึก ความคิดเห็น และให้เหตุผลประกอบ เช่น ชอบ ไม่ชอบ ดีใจ เสียใจ มีความสุข เศร้า หิว
รสชาติ สวย
น่าเกลียด เสียงดัง ดี ไม่ดี จากข่าว เหตุการณ์ สถานการณ์ ในชีวิตประจำวัน เช่น
Nice./Very nice./ Well done!/Congratulations on…./ I
like..because…./ I love…because…/
I feel…because…I think…/ I believe…/
I agree/disagree…/ I’m afraid…/ I don’t believe…/ I have no idea…/ Oh no! etc. |
มาตรฐาน
ต 1.3 นำเสนอข้อมูลข่าวสาร ความคิดรวบยอด
และความคิดเห็นในเรื่องต่างๆ โดยการพูดและการเขียน ดังตาราง 3
ตาราง
3
ตัวชี้วัดและสาระการเรียนรู้ สาระที่ 1 มาตรฐาน ต 1.3
ตัวชี้วัด
|
สาระการเรียนรู้แกนกลาง
|
1. พูดและเขียนบรรยายเกี่ยวกับตนเอง
ประสบการณ์ ข่าว/ เหตุการณ์/ เรื่อง/ ประเด็นต่างๆ ที่อยู่ในความสนใจของสังคม
|
— การบรรยายเกี่ยวกับตนเอง
ประสบการณ์ ข่าว/ เหตุการณ์/ ประเด็นที่อยู่ในความสนใจของสังคม เช่น การเดินทาง
การรับประทานอาหาร การเล่นกีฬา/ ดนตรี การฟังเพลง
การอ่านหนังสือ การท่องเที่ยว การศึกษา สภาพสังคม เศรษฐกิจ |
2. พูดและเขียนสรุปใจความสำคัญ/ แก่นสาระ
หัวข้อเรื่องที่ได้จากการวิเคราะห์/ ข่าว/ เหตุการณ์/
สถานการณ์ที่อยู่ในความสนใจของสังคม
|
— การจับใจความสำคัญ/ แก่นสาระ
หัวข้อเรื่อง การวิเคราะห์เรื่อง/ ข่าว/ เหตุการณ์/ สถานการณ์ที่อยู่ในความสนใจ
เช่น ประสบการณ์ เหตุการณ์ สถานการณ์ต่างๆ ภาพยนตร์ กีฬา ดนตรี เพลง
|
3.
พูดและเขียนแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับกิจกรรม ประสบการณ์และเหตุการณ์ พร้อมทั้งให้เหตุผลประกอบ
|
—
การแสดงความคิดเห็นและการให้เหตุผลประกอบเกี่ยวกับกิจกรรม
ประสบการณ์และเหตุการณ์
|
สาระที่ 2 ภาษาและวัฒนธรรม
มาตรฐาน ต 2.1
เข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างภาษากับวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา
และนำไปใช้ได้อย่างเหมาะสมกับกาลเทศะ ดังตาราง 4
ตาราง
4 ตัวชี้วัดและสาระการเรียนรู้
สาระที่ 2 มาตรฐาน ต 2.1
ตัวชี้วัด
|
สาระการเรียนรู้แกนกลาง
|
1. เลือกใช้ภาษา น้ำเสียง
และกิริยาท่าทางเหมาะกับบุคคลและโอกาสตามมารยาทสังคม และวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา
|
— การเลือกใช้ภาษา น้ำเสียง
และกิริยาท่าทางในการสนทนาตามมารยาทสังคมและวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา เช่น การขอบคุณ ขอโทษ การชมเชย การใช้สีหน้าท่าทางประกอบการพูดขณะแนะนำตนเอง การสัมผัสมือ การโบกมือ การแสดงความรู้สึกชอบ/ ไม่ชอบ
การกล่าวอวยพร การแสดงอาการตอบรับหรือปฏิเสธ
|
ตาราง
4
(ต่อ)
ตัวชี้วัด
|
สาระการเรียนรู้แกนกลาง
|
2.
อธิบายเกี่ยวกับชีวิตความเป็นอยู่ขนบธรรมเนียม
และประเพณีของเจ้าของภาษา
|
— ชีวิตความเป็นอยู่
ขนบธรรมเนียมและประเพณีของเจ้าของภาษา
|
3. เข้าร่วม/ จัดกิจกรรมทางภาษาและวัฒนธรรมตามความสนใจ
|
— กิจกรรมทางภาษาและวัฒนธรรม เช่น
การเล่นเกม การร้องเพลง การเล่านิทาน บทบาทสมมุติ
วันขอบคุณพระเจ้า
วันคริสต์มาส วันขึ้นปีใหม่ วันวาเลนไทน์ |
มาตรฐาน ต 2.2
เข้าใจความเหมือนและความแตกต่างระหว่างภาษาและวัฒนธรรมของเจ้าของภาษากับภาษาและวัฒนธรรมไทย
และนำมาใช้อย่างถูกต้องเหมาะสม ดังตาราง 5
ตาราง
5 ตัวชี้วัดและสาระการเรียนรู้
สาระที่ 2 มาตรฐาน ต 2.2
ตัวชี้วัด
|
สาระการเรียนรู้แกนกลาง
|
1. เปรียบเทียบและอธิบายความเหมือนและความแตกต่างระหว่างการออกเสียงประโยคชนิดต่างๆ
และการลำดับคำตามโครงสร้างประโยคของภาษาต่างประเทศและภาษาไทย
|
— การเปรียบเทียบและการอธิบาย
ความเหมือน/ ความแตกต่างระหว่างการออกเสียงประโยคชนิดต่างๆ ของเจ้าของภาษากับของไทย
— การใช้เครื่องหมายวรรคตอนและ
การลำดับคำตามโครงสร้างประโยคของภาษาต่างประเทศและภาษาไทย |
2. เปรียบเทียบและอธิบายความเหมือนและความแตกต่างระหว่างชีวิตความเป็นอยู่และวัฒนธรรมของเจ้าของภาษากับของไทย
และนำไปใช้อย่างเหมาะสม
|
— การเปรียบเทียบและการอธิบาย
ความเหมือนและความแตกต่างระหว่างชีวิต ความเป็นอยู่และวัฒนธรรมของเจ้าของภาษากับของไทย การนำวัฒนธรรมของเจ้าของภาษาไปใช้ |
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น