|
แผนการจัดการเรียนรู้
ตามทฤษฎีโครงสร้างทางความรู้ |
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 1
หน่วยการเรียนรู้เรื่อง Reading
in Everyday life
รหัสวิชา
อ23206 วิชา ภาษาอังกฤษเพื่อการศึกษาต่อ 2
กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ
(สาระการเรียนรู้เพิ่มเติม)
ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่
3 เวลา 1 คาบ
มาตรฐาน
ต 1.2
มีทักษะการสื่อสารทางภาษาในการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร
แสดงความรู้สึกและความคิดเห็นอย่างมีประสิทธิภาพ
ตัวชี้วัด
ต 1.2/1 สนทนาและเขียนโต้ตอบข้อมูลเกี่ยวกับตนเอง
เรื่องต่างๆ ใกล้ตัว สถานการณ์ ข่าว
เรื่องที่อยู่ในความสนใจของสังคม และสื่อสารอย่างต่อเนื่องเหมาะสม
ต 1.2/4 พูดและเขียนเพื่อขอและให้ข้อมูลอธิบาย
เปรียบเทียบ และแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องที่ฟังหรืออ่านอย่างเหมาะสม
ต 1.2/5 พูดและเขียนบรรยายความรู้สึกและความคิดเห็นของตนเองเกี่ยวกับเรื่องต่างๆ
กิจกรรม ประสบการณ์ และข่าว/เหตุการณ์ พร้อมทั้งให้เหตุผลประกอบอย่างเหมาะสม
จุดประสงค์การเรียนรู้
1. นักเรียนสรุปใจความสำคัญของเรื่องที่อ่านได้
2. นักเรียนบอกความหมายของคำศัพท์จากบทเรียนได้
3. นักเรียนเดาความหมายของคำศัพท์จากบริบทได้
4. นักเรียนบอกรายละเอียดของเรื่องที่อ่านได้
5. นักเรียนใช้รูปแบบคำกริยาได้ถูกต้องตามกาล
สาระสำคัญ
เนื้อหาการอ่านภาษาอังกฤษเกี่ยวกับการเสพติดอินเตอร์เน็ต
และข้อสังเกตจากพฤติกรรมของตัวเอง แง่คิดเกี่ยวกับการใช้อินเตอร์เน็ต
ความรู้ไวยากรณ์ present
simple tense
คุณลักษณะอันพึงประสงค์
-
ใฝ่เรียนรู้
- มุ่งมั่นในการทำงาน
- รักความเป็นไทย
- มีจิตสาธารณะ
สมรรถนะ
- มีความสามารถในการสื่อสาร
- มีความสามารถในการคิด
- มีความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต
- มีความสามารถในการใช้เทคโนโลยี
กิจกรรมการจัดการเรียนการสอน
|
อาจารย์
|
นักเรียน
|
|
1.
ทบทวนความรู้เดิม
1.1 อาจารย์ถามว่านักเรียน : Can you use the Internet?
1.2 อาจารย์เล่าเรื่องการท่องอินเตอร์เน็ตว่ามีข่าวว่าเด็กติดอินเตอร์เน็ตเยอะจนผู้ปกครองเป็นห่วง (There are many news about
Internet addiction in students.)
|
1.
ทบทวนความรู้เดิม
1.1 นักเรียนตอบคำถาม (Possible answer : Yes, I
can./ No, I can’t.)
1.2 นักเรียนฟังและแสดงความคิดเห็นเพิ่มเติม
|
|
2.
สอนเนื้อหาใหม่และปฏิบัติกิจกรรม
2.1 อาจารย์สอนเนื้อหาเรื่อง Who’s in Control-The Internet or
You?
2.2 อาจารย์ถามคำถามเกี่ยวกับคำศัพท์ที่นักเรียนไม่เข้าใจและลองทบทวน
เช่น chat = พูดคุย; addiction= เสพย์ติด; spend = ใช้เงิน, ใช้เวลา; at
least=อย่างน้อย;
alcoholism= โรคติดเครื่องดื่มที่มี ส่วนผสมของแอลกอฮอล์;
control=ควบคุม; several=หลากหลาย;
|
2.
สอนเนื้อหาใหม่และปฏิบัติกิจกรรม
2.1 นักเรียนอ่านทำความเข้าใจและสอบถามคำศัพท์ที่ไม่เข้าใจ
2.2 นักเรียนตอบคำถามของอาจารย์และทบทวนคำศัพท์ตามที่อาจารย์ถาม
|
|
อาจารย์
|
นักเรียน
|
||||
|
surfing
the net=เล่นอินเตอร์เน็ต; straight=
ตรง,
ตลอดเวลาไม่มีหยุด; estimate=
โดยเฉลี่ย; research(s)=นักวิจัย; particularly=โดยเฉพาะ; cyberspace=
โลกเสมือนจริง; hobby=งานอดิเรก;
symptom(s)=อาการ(ที่ไม่ดี); session=
ช่วงระยะเวลา; cure=รักษา; expert(s)=ผู้เชี่ยวชาญ; recommend=แนะนำ; strict=เข้มงวด; limit=จำกัด เป็นต้น |
|
||||
|
3.
สรุปบทเรียน
3.1 อาจารย์ถามว่าจากที่เรียนมาทั้งหมดนักเรียนได้เรียนรู้เกี่ยวกับอะไรบ้าง
อาจารย์คอยเสริมข้อสรุปด้วย
(In this lesson, what do you learn from it?)
3.2 อาจารย์สรุปบทเรียนโดยให้ข้อคิดว่า
-
There are many knowledge in cyberspace, but it too bad if you waste your time
with it.
-
Family and friends are the reality so you have to give love to people around
you.)
|
3.
สรุปบทเรียน
3.1 นักเรียนตอบคำถาม (Answers will vary.)
3.2 นักเรียนนำเสนอข้อคิดที่ตนได้รับเพิ่มเติม
(Answers will vary.)
|
||||
|
4.
ฝึกทักษะจากใบงานและแบบฝึกหัดเสริม
4.1 อาจารย์แจกใบงานที่มีคำสั่งให้อ่านเนื้อเรื่องที่เรียนมาอีกครั้งแล้วทำแบบฝึกหัดในใบงาน (Please do these
exercises.)
4.2 อาจารย์เฉลยคำตอบ ดังนี้
Answer
the questions about the reading.
Answer
the questions about the reading.
1. What is Internet addiction?
According
to researchers, Internet addicts spend at least thirty to forty hours online
every week.
|
4.
ฝึกทักษะจากใบงานและแบบฝึกหัดเสริม
4.1 นักเรียนทำใบงาน ตามคำสั่งในใบงาน
4.2 นักเรียนตรวจคำตอบว่าตรงกันหรือไม่
|
||||
|
อาจารย์
|
นักเรียน
|
||||
|
2. What are some signs of Internet
addiction?
- You do not go to important family
events or you do not do school projects because you like to spend hours on
the Internet.
- You can’t wait for your next online
session.
- You’re determined to spend a brief
time online, but then you spend several hours.
- You spend less and less time with
your friends.
3. How can people cure Internet
addiction?
Some
experts recommend that people set strict limits on their time for
Internet use.
4. What are some positive things about
the Internet?
- You can access lots of information
with only once click.
- You can find your old friends and
new friends from around the world.
5. What are some negative things?
-
you do not do school projects
- you go out with your friends less
and less.
- etc.
Which
is the correct meaning of the underlined words? Choose the right answer
|
|
||||
|
อาจารย์
|
นักเรียน
|
||||
|
1.
When you spend forty hours a week online, you have an Internet addiction.
b. Ability to use the Internet well
c. Loss of free time
2. People lose control of their
Internet time.
a. Don’t know how much time they spend
online
c. Don’t know how to measure time
d. Don’t have any money
3. Studies estimate that 10
percent of Internet users are addicts.
a. Give a number that is totally
accurate
c. Give a total number
d. Give a number correctly
4. What are symptoms of Internet
addiction?
a. Causes
b. Medical reasons for
d. Motion sickness
Fill
in the blanks with the words given.
1. I want to chat with you next
time online.
|
|
||||
|
อาจารย์
|
นักเรียน
|
||||
|
2. He is addicted to amphetamine.
3. The experts suggested a way to consider your Internet
addiction activities.
4. The Web is only one aspect of the Internet, and you label yourself
as terminally cool if you say “surfing the net”
5. He
has a serious symptoms such as fever, cough, and sore throat
|
|
||||
|
5.
การนำความรู้ไปใช้
5.1
อาจารย์มอบหมายการบ้านให้นักเรียนสรุปเนื้อเรื่องจากบทความง่ายๆ
ในเว็บไซต์ฝึกภาษาหรือจากหนังสือพิมพ์ภาษาอังกฤษ
5.2 อาจารย์แนะนำให้เข้า
google พิมพ์คำว่า esl = English for a second language แล้วเลือกเอา
1 เว็บไซต์ ส่วนจากหนังสือพิมพ์ เช่น Time, Bangkok
Post, Student Weekly, Nation Junior, English World เป็นต้น
5.3
อาจารย์กำหนดหัวข้อว่าควรเกี่ยวกับการใช้อินเตอร์เน็ต
และข้อดีข้อเสียของอินเตอร์เน็ต (The negative and positive way to use
the Internet.)
|
5.
การนำความรู้ไปใช้
5.1 นักเรียนสอบถามข้อสงสัย
เช่น จากเว็บไซต์ใดบ้าง จากหนังสือพิมพ์ฉบับไหน และควรเป็นบทความเกี่ยวกับอะไร
เพราะมีให้เลือกมากมาย
|
||||
|
6.
การประเมินผล
6.1 นักเรียนส่งแบบฝึกหัดมาสรุปหาผลคะแนน
|
6.
การประเมินผล
6.1
นักเรียนส่งแบบฝึกหัดจากใบงาน
|
||||
สื่อ
- ใบความรู้ที่ 1
- ใบงานที่ 1
การวัดและประเมินผล
|
จุดประสงค์
|
เครื่องมือที่ใช้
ในการวัดและประเมินผล
|
เกณฑ์การวัดและประเมินผล
|
|
1.
นักเรียนสรุปใจความสำคัญของเรื่องที่อ่านได้
2.
นักเรียนบอกความหมายของคำศัพท์จากบทเรียนได้
3.
นักเรียนเดาความหมายของคำศัพท์จากบริบทได้
4.
นักเรียนบอกรายละเอียดของเรื่องที่อ่านได้
5.
นักเรียนใช้รูปแบบคำกริยาได้ถูกต้องตามกาล
|
-
แบบฝึกหัดท้ายบทเรียน
|
8-9 คะแนน ดีเยี่ยม
6-7 คะแนน ดี
4-5 คะแนน ผ่าน
0-3 คะแนน ไม่ผ่าน
|
บันทึกผลหลังการสอน
-
ผลที่เกิดขึ้นกับผู้เรียน
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
-
ปัญหาที่พบ
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
-
แนวทางในการพัฒนาและแก้ไข
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ลงชื่อ
.............................................ผู้บันทึก
(นางสาวปิลันธร มั่นพันธ์พาณิชย์)
ภาคผนวก
ค
-
ใบความรู้ที่ 1 เรื่อง Who’s in Control-The Internet or You?
-
ใบงานที่ 1 เรื่อง Who’s in Control-The Internet or You?
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 2
หน่วยการเรียนรู้เรื่อง Reading
in Everyday life
รหัสวิชา
อ23206 วิชา ภาษาอังกฤษเพื่อการศึกษาต่อ 2
กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ
(สาระการเรียนรู้เพิ่มเติม)
ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่
3 เวลา 1 คาบ
มาตรฐาน
ต 1.2
มีทักษะการสื่อสารทางภาษาในการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร
แสดงความรู้สึกและความคิดเห็นอย่างมีประสิทธิภาพ
ตัวชี้วัด
ต 1.2/1 สนทนาและเขียนโต้ตอบข้อมูลเกี่ยวกับตนเอง
เรื่องต่างๆ ใกล้ตัว สถานการณ์ ข่าว
เรื่องที่อยู่ในความสนใจของสังคม และสื่อสารอย่างต่อเนื่องและเหมาะสม
ต 1.2/4 พูดและเขียนเพื่อขอและให้ข้อมูล
อธิบาย เปรียบเทียบ และแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องที่ฟังหรืออ่านอย่างเหมาะสม
ต 1.2/5 พูดและเขียนบรรยายความรู้สึกและความคิดเห็นของตนเองเกี่ยวกับเรื่องต่างๆ
กิจกรรม ประสบการณ์ และข่าว/เหตุการณ์ พร้อมทั้งให้เหตุผลประกอบอย่างเหมาะสม
จุดประสงค์การเรียนรู้
1.
นักเรียนสรุปใจความสำคัญของเรื่องที่อ่านได้
2.
นักเรียนบอกความหมายของคำศัพท์จากบทเรียนได้
3.
นักเรียนเดาความหมายของคำศัพท์จากบริบทได้
4.
นักเรียนบอกรายละเอียดของเรื่องที่อ่านได้
5.
นักเรียนใช้รูปแบบคำกริยาได้ถูกต้องตามกาล
6.
นักเรียนบอกความหมายของคำที่ใช้อ้างอิงถึงคำนามที่กล่าวมาแล้ว
สาระสำคัญ
เนื้อเรื่องเกี่ยวกับคู่รักที่พบรักกันและแต่งงานกัน
รวมทั้งการสู้ชีวิตของบุคคลที่มีชื่อเสียงคนหนึ่งกว่าจะเป็นคนมีชื่อเสียงขึ้นมา
ความรู้ไวยากรณ์ เรื่อง present
perfect tense
คุณลักษณะอันพึงประสงค์
- มีวินัย
- ใฝ่เรียนรู้
- มุ่งมั่นในการทำงาน
- รักความเป็นไทย
สมรรถนะ
- มีความสามารถในการสื่อสาร
- มีความสามารถในการคิด
- มีความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต
กิจกรรมการจัดการเรียนการสอน
|
อาจารย์
|
นักเรียน
|
||||
|
1.
ทบทวนพื้นฐานความรู้เดิม
1.1 อาจารย์ถามนักเรียน :
- Do you know about wedding ceremony?
- Who know the famous people?
- Today, we will learn about marriage
and singer autobiography.
1.2 อาจารย์เล่าข่าวเรื่อง ดังนี้
- A couple meet together in subway, and then
love together.
- Another story is about the fighting
of life to be the superstar. These are life and duty.
1.3 เราจะมาเรียนเรื่องข่าวการแต่งงานของ Pamela และ Diego
กันและอีกเรื่องคือ ประวัติชีวิตของ Ricky Martin ว่าเขาก้าวมาเป็นศิลปินชื่อก้องโลกได้อย่างไร (We will learn
about Pamela and Diego marriage and the story of Ricky Martin that how to be
a superstar.)
|
1.
ทบทวนพื้นฐานความรู้เดิม
1.1 นักเรียนตอบคำถาม
(Answers will vary.)
1.2
นักเรียนฟังอาจารย์เล่าเรื่องคร่าวๆ เกี่ยวกับเรื่องที่เรียน
1.3
นักเรียนรับทราบว่าเราจะเรียนรู้เรื่องอะไรบ้าง
|
||||
|
อาจารย์
|
นักเรียน
|
||||
|
2.
สอนเนื้อหาใหม่และปฏิบัติกิจกรรม
2.1 อาจารย์แจกใบความรู้เรื่อง Pamela & Diego
2.2 อาจารย์ให้นักเรียนอ่านใบความรู้แล้วตอบคำถามว่า
- Where they meet together?
- What does Diego see in Pamela?
- What does Pamela find in Diego? พร้อมทั้งอธิบายคำศัพท์ให้นักเรียนฟัง
2.3
อาจารย์แจกใบความรู้เรื่อง Ricky
Martin
2.4 อาจารย์ถามนักเรียน ดังนี้
- What songs make Ricky well-known?
- How long have he perform before
become popular?
- When was he success his goal?
|
2.
สอนเนื้อหาใหม่และปฏิบัติกิจกรรม
2.1 นักเรียนรับแจกใบความรู้เรื่อง Pamela
& Diego
2.2 นักเรียนตอบคำถามอาจารย์ ดังนี้
- They meet at the subway.
- She seemed very happy and
energetic.
- He was handsome, and he seemed
interesting.
2.3 นักเรียนรับแจกใบความรู้เรื่อง Ricky Martin
2.4 นักเรียนตอบคำถาม ดังนี้
- Un, Dos, Tre, Maria, The Cup of
Life, and Livin’La Vida Loca
- He had perform when he was 12 , and
for 5 years to success.
- In 1989.
|
||||
|
3.
สรุปบทเรียน
3.1 อาจารย์ถาม :
From both story, what knowledge do you get?
|
3.
สรุปบทเรียน
3.1 นักเรียนตอบ
(Answers will vary.)
|
||||
|
4.
ฝึกทักษะจากใบงานและจากแบบฝึกหัดเสริม
4.1 อาจารย์แจกแบบฝึกหัดท้ายบทเรียน
4.2 อาจารย์ชี้แจงคำสั่งและสอนคำศัพท์
เกี่ยวกับคำสั่ง เช่น match=จับคู่; complete=สมบูรณ์ เป็นต้น
|
4.
ฝึกทักษะจากใบงานและจากแบบฝึกหัดเสริม
4.1 นักเรียนรับแบบฝึกหัดท้ายบทเรียน
มาทำ
4.2 นักเรียนที่มีข้อสงสัยซักถาม
|
||||
|
5.
การนำความรู้ไปใช้
5.1
อาจารย์มอบหมายการบ้านให้นักเรียนสรุปเนื้อเรื่องจากบทความในเว็บไซต์ฝึกภาษา
หรือจากหนังสือพิมพ์ โดยควรเป็นเรื่องเกี่ยวกับประวัติชีวิตบุคคลสำคัญของโลก
|
5.
การนำความรู้ไปใช้
5.1 นักเรียนสอบถามข้อสงสัยในการบ้านเพิ่มเติมจากคาบที่ผ่านมา
|
||||
|
อาจารย์
|
นักเรียน
|
||||
|
6.
การประเมินผล
6.1 อาจารย์ตรวจการบ้านจากคาบที่แล้ว
และให้คำวิจารณ์เป็นลายลักษณ์อักษร
6.2 ตรวจแบบฝึกหัดท้ายบท ดังนี้
Answer
about Pamela and Diego.
1. Where were they born?
Pamela
was from Texas. Diego was from Argentina.
2. Where did they meet?
They
met on a subway in Paris.
Diego
noticed Pamela when she got the subway train, and follow Pamela.
3. How did they meet?
Diego
had to get off at the same stop.
4. What work do they do?
They
walked to the job interview at the same office.
Answer
the questions about the reading.
1. Where was Ricky Martin born?
He
was born in San Juan, Puerto Rico.
2. When did he become interested in
entertainment?
He
became interested in a career as an entertainer in elementary school.
3. Which group did he use to sing with as
a teenager?
The
Latin group Menudo.
4. How old was he when he joined the
group?
Ten
years old.
|
6.
การประเมินผล
6.1 นักเรียนส่งการบ้าน
6.2 นักเรียนส่งแบบฝึกหัดท้ายบท
|
||||
|
อาจารย์
|
นักเรียน
|
|
5. What did he do in Mexico?
There
he began an acting career in Mexican soap operas.
6. When did his solo career become
successful?
In
1995
Find
words in the reading that match the definitions.
1. A famous performer (first paragraph) a
star
2. A group of singers (second paragraph)choir
3. An ad on TV (second paragraph)television
commercials
4. Highest point (fifth paragraph) peak
5. On one’s own (fifth paragraph) solo
6. Unhappiness because you can’t reach a
goal (fifth paragraph)miserable
Fill
in the blanks with the words given.
1. I get an interview for my new
job.
2. Thailand has both sky train and subway
train.
3. She has an audition for her
next character of new series.
4. Justin Beber is very popular so his
concert tickets sold-out in just only two hours.
5. The children are happy when their
mothers let them go to play at the playground.
|
|
สื่อ
- ใบความรู้ที่ 2
- ใบงานที่ 2
การวัดและประเมินผล
|
จุดประสงค์
|
เครื่องมือที่ใช้
ในการวัดและประเมินผล
|
เกณฑ์การวัดและประเมินผล
|
|
1.
นักเรียนสรุปใจความสำคัญของเรื่องที่อ่านได้
2.
นักเรียนบอกความหมายของคำศัพท์จากบทเรียนได้
3.
นักเรียนเดาความหมายของคำศัพท์จากบริบทได้
4.
นักเรียนบอกรายละเอียดของเรื่องที่อ่านได้
5.
นักเรียนใช้รูปแบบคำกริยาได้ถูกต้องตามกาล
6.
นักเรียนบอกความหมายของคำที่ใช้อ้างอิงถึงคำนามที่กล่าวมาแล้ว
|
-
แบบฝึกหัดท้ายบทเรียน
|
8-9 คะแนน ดีเยี่ยม
6-7 คะแนน ดี
4-5 คะแนน ผ่าน
0-3 คะแนน ไม่ผ่าน
|
บันทึกผลหลังการสอน
-
ผลที่เกิดขึ้นกับผู้เรียน
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
-
ปัญหาที่พบ
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
-
แนวทางในการพัฒนาและแก้ไข
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ลงชื่อ
.............................................ผู้บันทึก
(นางสาวปิลันธร
มั่นพันธ์พาณิชย์)
ภาคผนวก
ค
- ใบความรู้ที่ 2 เรื่อง Pamela
and Diego และเรื่อง Ricky Martin
- ใบงานที่ 2 เรื่อง
Pamela and Diegoและเรื่อง Ricky Martin
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 3
หน่วยการเรียนรู้เรื่อง Reading
in Everyday life
รหัสวิชา
อ23206 วิชา ภาษาอังกฤษเพื่อการศึกษาต่อ 2
กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ
(สาระการเรียนรู้เพิ่มเติม)
ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่
3 เวลา 1 คาบ
มาตรฐาน
ต 2.1
เข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างภาษากับวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา
และนำไปใช้ได้อย่างเหมาะสมกับกาลเทศะ
ตัวชี้วัด
ต 2.1/2 อธิบายเกี่ยวกับชีวิตความเป็นอยู่
ขนบธรรมเนียม ประเพณีของเจ้าของภาษา
จุดประสงค์การเรียนรู้
1. นักเรียนสรุปใจความสำคัญของเรื่องที่อ่านได้
2. นักเรียนบอกความหมายของคำศัพท์จากบทเรียนได้
3. นักเรียนเดาความหมายของคำศัพท์จากบริบทได้
4. นักเรียนบอกรายละเอียดของเรื่องที่อ่านได้
สาระสำคัญ
เรื่องราวเกี่ยวกับการเขียนจดหมายถึงเพื่อนหรือ
Informal Letter ที่ใช้ภาษาง่ายๆ เป็นการเอง
และมีรูปแบบที่ยืดหยุ่นได้ ไวยากรณ์เรื่อง future
simple tense
คุณลักษณะอันพึงประสงค์
- รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์
- มีวินัย
- ใฝ่เรียนรู้
- รักความเป็นไทย
สมรรถนะ
- มีความสามารถในการสื่อสาร
- มีความสามารถในการคิด
- มีความสามารถในการแก้ปัญหา
- มีความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต
กิจกรรมการจัดการเรียนการสอน
|
อาจารย์
|
นักเรียน
|
|
1.
ทบทวนพื้นฐานความรู้เดิม
1.1 อาจารย์ถามนักเรียน :
- Have you ever write a letter?
- In Thai or English?
1.2 อาจารย์ถามว่า : If you were an exchange student,
What will you tell them about Thailand?
1.3 อาจารย์เล่าว่า : This story is a letter of
an exchange student, who stay in Thailand for a while.
|
1.
ทบทวนพื้นฐานความรู้เดิม
1.1 นักเรียนตอบคำถาม
-
Possible answers: Yes, I have./ No, I haven’t.
- Possible answers: Thai/ English
1.2 นักเรียนตอบคำถามอาจารย์ (Answers will vary.)
1.3 นักเรียนฟังอาจารย์เล่า
|
|
2.
สอนเนื้อหาใหม่และปฏิบัติกิจกรรม
2.1 อาจารย์บอกนักเรียนว่า: Today, we will learn about
“Friendly Letter”. It’s a kind of an informal letter.
2.2 อาจารย์อธิบาย:
An informal letter is letter from friend to friend and use easy words.
2.3
อาจารย์แจกใบความรู้เรื่อง Friendly Letter และอธิบายคำศัพท์ เช่น
hectic=เร่งด่วน; chaotic=ไม่เป็นระเบียบ,สับสน;
son=ลูกชาย;
daughter=ลูกสาว; Grandpa=ปู่,ตา; Grandma=ย่า,ยาย; favorite=โปรดปราน;
culture=วัฒนธรรม; chopsticks=ตะเกียบ; spoon(s)=ช้อน; fork(s)= ส้อม;
genuine=แท้;
|
2.
สอนเนื้อหาใหม่และปฏิบัติกิจกรรม
2.1 นักเรียนสอบถามความหมายของเรื่องและความแตกต่างระหว่างจดหมายไม่เป็นทางการและแบบเป็นทางการ
2.2 นักเรียนฟังอาจารย์อธิบาย
2.3 นักเรียนอ่านเรื่อง
Friendly Letter และสอบถามคำศัพท์ที่ไม่เข้าใจ
|
|
อาจารย์
|
นักเรียน
|
|
mahout(s)=ควาญช้าง,
คนเลี้ยงช้าง; fascinate= ประหลาดใจ, ทึ่ง; traditional=เกี่ยวกับประเพณี; Thai boxing=
มวยไทย เป็นต้น
|
|
|
3.
สรุปบทเรียน
3.1 อาจารย์ช่วยนักเรียนสรุปเรื่องที่อ่าน
จาก Friendly
Letter โดยถามว่า
- Who write this letter?
- Who this letter to?
- How many people in the Phairat family? Please
describe.
- From Mandy explanation, How about Bangkok?
- Where do
they travel?
- How many elephant that the Phairat have? - What
do they do with the elephant?
- What does Mandy tell friend about
an elephant?
- What will Mandy tell her friend for next
letter?
3.2 อาจารย์ถามนักเรียน :
From this lesson, what knowledge do you get?
|
3.
สรุปบทเรียน
3.1 นักเรียนตอบคำถามอาจารย์เพื่อสรุปเนื้อหาทั้งหมดในบทอ่าน
- Mandy
- Liz
- There are six people in this family
: Mr. and Mrs. Phairat, Sanan, Chinda, Grandpa, and Grandma
- Bangkok has a chaotic traffic, but she live in
a nice quiet area outside the city.
- Pattaya, Phuket Island, and the North of
Thailand.
- Two
elephants.
- They use it to pull logs.
- Elephants are an important part of Thai culture
and way of life.
- Thai boxing.
3.2 นักเรียนตอบคำถาม (Answers
will vary.)
|
|
4.
ฝึกทักษะจากใบงานและจากแบบฝึกหัดเสริม
4.1 อาจารย์แจกแบบฝึกหัด
เรื่อง Friendly Letter
4.2 อาจารย์อธิบายคำสั่งในกรณีที่มีนักเรียนไม่เข้าใจ คำสั่งมีดังนี้
ตอบคำถามจากเรื่องที่อ่าน และ
ใส่เครื่องหมายถูกในช่องที่ความหมายตรงกับในเนื้อเรื่อง
|
4.
ฝึกทักษะจากใบงานและจากแบบฝึกหัดเสริม
4.1 นักเรียนทำแบบฝึกหัดเรื่อง
Friendly Letter
4.2 นักเรียนสอบถามวิธีทำแบบฝึกหัด
|
อาจารย์
|
นักเรียน
|
|
5.
การนำความรู้ไปใช้
5.1
อาจารย์ให้การบ้านนักเรียนนำบทความจากเว็บไซต์ฝึกภาษา หรือ
จากหนังสือพิมพ์สรุปมาส่งอาจารย์ 1 เรื่อง โดยให้เกี่ยวข้องกับเรื่อง ช้าง
ถ้าเป็นช้างไทยได้ยิ่งดี
|
5.
การนำความรู้ไปใช้
5.1 นักเรียนสอบถามว่าควรเกี่ยวข้องกับเรื่องอะไร
|
|
6.
การประเมินผล
6.1 อาจารย์เรียกเก็บการบ้านจากคาบที่แล้ว
6.2 อาจารย์ให้นักเรียนส่งแบบฝึกหัด
|
6.การประเมินผล
6.1 นักเรียนส่งการบ้านจากคาบที่แล้ว
และรับการบ้านคาบก่อนหน้านี้ที่มีคำแนะนำคืน
6.2
นักเรียนส่งแบบฝึกหัดให้อาจารย์ตรวจให้คะแนน
|
สื่อ
- ใบความรู้ที่ 3
- ใบงานที่ 3
การวัดและประเมินผล
|
จุดประสงค์
|
เครื่องมือที่ใช้
ในการวัดและประเมินผล
|
เกณฑ์การวัดและประเมินผล
|
|
1.
นักเรียนสรุปใจความสำคัญของเรื่องที่อ่านได้
2.
นักเรียนบอกความหมายของคำศัพท์จากบทเรียนได้
3.
นักเรียนเดาความหมายของคำศัพท์จากบริบทได้
4.
นักเรียนบอกรายละเอียดของเรื่องที่อ่านได้
|
-
แบบฝึกหัดท้ายบทเรียน
|
8-9 คะแนน ดีเยี่ยม
6-7 คะแนน ดี
4-5 คะแนน ผ่าน
0-3 คะแนน ไม่ผ่าน
|
บันทึกผลหลังการสอน
-
ผลที่เกิดขึ้นกับผู้เรียน
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
-
ปัญหาที่พบ
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
-
แนวทางในการพัฒนาและแก้ไข
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ลงชื่อ
.............................................ผู้บันทึก
(นางสาวปิลันธร มั่นพันธ์พาณิชย์)
ภาคผนวก
ค
- ใบความรู้ที่ 3 เรื่อง Letter
to a friend
- ใบงานที่ 3 เรื่อง Letter
to a friend
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 4
หน่วยการเรียนรู้เรื่อง Easy
History
รหัสวิชา
อ23206 วิชา ภาษาอังกฤษเพื่อการศึกษาต่อ 2
กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ
(สาระการเรียนรู้เพิ่มเติม)
ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่
3 เวลา 1 คาบ
มาตรฐาน
ต 1.1
เข้าใจและตีความเรื่องที่ฟังและอ่านจากสื่อประเภทต่างๆ
และแสดงความคิดเห็นอย่างมีเหตุผล
ตัวชี้วัด
ต 1.1/1 ปฏิบัติตามคำขอร้อง
คำแนะนำ คำชี้แจง และคำอธิบายที่ฟังและอ่าน
ต 1.1/2 อ่านออกเสียงข้อความ
ข่าว โฆษณา และบทร้อยกรองสั้นๆ ถูกต้องตามหลักการอ่าน
ต 1.1/4 เลือก/ระบุ
หัวข้อเรื่อง ในความสำคัญ รายละเอียดสนับสนุน และแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องที่ฟังและอ่านจากสื่อประเภทต่างๆ
พร้อมทั้งให้เหตุผลและยกตัวอย่างประกอบ
จุดประสงค์การเรียนรู้
1.
นักเรียนบอกความหมายของคำศัพท์จากบทเรียนได้
2.
นักเรียนบอกรายละเอียดของเรื่องที่อ่านได้
3.
นักเรียนใช้รูปแบบคำกริยาได้ถูกต้องตามกาล
4.
นักเรียนบอกความหมายของคำที่ใช้อ้างอิงถึงคำนามที่กล่าวมาแล้ว
สาระสำคัญ
นักเรียนได้เรียนรู้เกี่ยวกับที่มาที่ไปของสิ่งประดิษฐ์ต่างๆ
ในชีวิตประจำวันของนักเรียนเอง
ไวยากรณ์เรื่อง Past
simple tense
คุณลักษณะอันพึงประสงค์
-
ซื่อสัตย์สุจริต
-
มีวินัย
-
ใฝ่เรียนรู้
-
อยู่อย่างพอเพียง
-
มีจิตสาธารณะ
สมรรถนะ
-
มีความสามารถในการสื่อสาร
-
มีความสามารถในการคิด
-
มีความสามารถในการใช้เทคโนโลยี
กิจกรรมการจัดการเรียนการสอน
|
อาจารย์
|
นักเรียน
|
|
1.
ทบทวนพื้นฐานความรู้เดิม
1.1 อาจารย์ถามนักเรียนว่าทราบไหมว่าสิ่งประดิษฐ์ต่างๆ
มีที่มาที่ไปอย่างไร
|
1.
ทบทวนพื้นฐานความรู้เดิม
1.1 นักเรียนตอบคำถามของอาจารย์
(Answer will vary.)
|
|
2.
สอนเนื้อหาใหม่และปฏิบัติกิจกรรม
2.1
อาจารย์แจ้งให้นักเรียนทราบว่าเราจะเรียนรู้เรื่อง Since When? ซึ่งกล่าวถึงสิ่งประดิษฐ์ต่างๆ ที่เราใช้ในชีวิตประจำวัน
2.2 อาจารย์แจกใบความรู้เรื่อง
Since When?
2.3 อาจารย์ถามคำถามนักเรียนเกี่ยวกับ
เนื้อเรื่องที่อ่านจากใบความรู้เพื่อทดสอบ ดังต่อไปนี้
-
When was the cell phone invented?
- Who made it first?
- When was the refrigerator invented?
- Who made it first?
- When was the television invented?
- Who made it first?
- When was the watch invented?
- Who made it first?
|
2.
สอนเนื้อหาใหม่และปฏิบัติกิจกรรม
2.1 นักเรียนรับทราบว่าเราจะเรียนรู้เรื่อง
Since When?
2.2 นักเรียนรับแจกใบความรู้เรื่อง
Since When?
2.3 นักเรียนตอบคำถามอาจารย์ตามเนื้อเรื่อง
(Answers depend on the text.)
|
|
อาจารย์
|
นักเรียน
|
|
3.
สรุปบทเรียน
3.1 อาจารย์ถามนักเรียนว่าจากที่เรียนมาทั้งหมดนักเรียนได้เรียนรู้อะไรบ้าง
(What did you
get from this story?)
|
3.
สรุปบทเรียน
3.1 นักเรียนตอบคำถามอาจารย์
(Answers will vary.)
|
|
4.
ฝึกทักษะจากใบงานและจากแบบฝึกหัดเสริม
4.1 อาจารย์แจกแบบฝึกหัดให้นักเรียนที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับการสรุปเนื้อเรื่อง
และการใช้คำศัพท์ในบริบทที่แตกต่างจากเนื้อเรื่อง
4.2 อาจารย์ให้นักเรียนทำแบบฝึกหัด
|
4.
ฝึกทักษะจากใบงานและจากแบบฝึกหัดเสริม
4.1 นักเรียนรับแจกแบบฝึกหัด
4.2 นักเรียนทำแบบฝึกหัดนั้น
|
|
5.
การนำความรู้ไปใช้
5.1 อาจารย์ให้การบ้านนักเรียนทำการบ้านโดยการสรุปเนื้อเรื่องจากบทความในเว็บไซต์ฝึกภาษาหรือจากหนังสือพิมพ์ภาษาอังกฤษ
5.2 อาจารย์กำหนดหัวข้อว่าควรเป็นเรื่องเกี่ยวกับการประดิษฐ์คิดค้นสิ่งของสำคัญที่มีอยู่ในชีวิตประจำวัน
|
5.
การนำความรู้ไปใช้
5.1 นักเรียนทำการบ้านโดยการสรุปเนื้อเรื่องจากบทความในเว็บไซต์ฝึกภาษาหรือจากหนังสือพิมพ์ภาษาอังกฤษและสอบถามข้อสงสัย
5.2 นักเรียนรับทราบหัวข้อเรื่องและสอบถามข้อสงสัย
(ถ้ามี)
|
|
6.
การประเมินผล
6.1 อาจารย์ให้นักเรียนส่งการบ้านจากคาบที่แล้วมาให้อาจารย์ตรวจลงคะแนน
วิจารณ์เป็นลายลักษณ์อักษร
6.2 อาจารย์ให้นักเรียนส่งแบบฝึกหัดมาตรวจหาผลคะแนน
|
6.
การประเมินผล
6.1 นักเรียนส่งการบ้านจากคาบที่แล้วมาให้อาจารย์ตรวจลงคะแนน
วิจารณ์เป็นลายลักษณ์อักษร
6.2 นักเรียนส่งแบบฝึกหัดมาตรวจหาผลคะแนน
|
สื่อ
- ใบความรู้ที่ 4
- ใบงานที่ 4
การวัดและประเมินผล
|
จุดประสงค์
|
เครื่องมือที่ใช้
ในการวัดและประเมินผล
|
เกณฑ์การวัดและประเมินผล
|
|
1.
นักเรียนเดาความหมายของคำศัพท์จากบริบทได้
2.
นักเรียนบอกรายละเอียดของเรื่องที่อ่านได้
3.
นักเรียนใช้รูปแบบคำกริยาได้ถูกต้องตามกาล
4.
นักเรียนบอกความหมายของคำที่ใช้อ้างอิงถึงคำนามที่กล่าวมาแล้ว
|
-
แบบฝึกหัดท้ายบทเรียน
|
8-9 คะแนน ดีเยี่ยม
6-7 คะแนน ดี
4-5 คะแนน ผ่าน
0-3 คะแนน
ไม่ผ่าน
|
บันทึกผลหลังการสอน
-
ผลที่เกิดขึ้นกับผู้เรียน
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
-
ปัญหาที่พบ
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
-
แนวทางในการพัฒนาและแก้ไข
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ลงชื่อ
.............................................ผู้บันทึก
(นางสาวปิลันธร
มั่นพันธ์พาณิชย์)
ภาคผนวก
ค
- ใบความรู้ที่ 4 เรื่อง Since
When?
- ใบงานที่ 4 เรื่อง Since
When?
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 5
หน่วยการเรียนรู้เรื่อง Easy
History
รหัสวิชา
อ23206 วิชา ภาษาอังกฤษเพื่อการศึกษาต่อ 2
กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ
(สาระการเรียนรู้เพิ่มเติม)
ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่
3 เวลา 1 คาบ
มาตรฐาน
ต 4.1
ใช้ภาษาต่างประเทศในสถานการณ์ต่างๆ
ทั้งในสถานศึกษา ชุมชน และสังคม
ตัวชี้วัด
ต 4.1/1 ใช้ภาษาสื่อสารในสถานการณ์จริง/สถานการณ์จำลองที่เกิดขึ้นในห้องเรียน
สถานศึกษา ชุมชน และสังคม
จุดประสงค์การเรียนรู้
1. นักเรียนสรุปใจความสำคัญของเรื่องที่อ่านได้
2. นักเรียนบอกความหมายของคำศัพท์จากบทเรียนได้
3. นักเรียนเดาความหมายของคำศัพท์จากบริบทได้
4. นักเรียนบอกรายละเอียดของเรื่องที่อ่านได้
5. นักเรียนใช้รูปแบบคำกริยาได้ถูกต้องตามกาล
สาระสำคัญ
นักเรียนจะได้เรียนรู้เกี่ยวกับความมหัศจรรย์จากการสร้างหนังสักเรื่องหนึ่ง
และเอฟเฟกพิเศษเกิดมาตั้งแต่เมื่อไหร่ เบื้องหลังสเปเชี่ยลเอฟเฟกต่างๆ
ได้เรียนรู้ไวยากรณ์เรื่อง Present
perfect tense
คุณลักษณะอันพึงประสงค์
-
รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์
-
ใฝ่เรียนรู้
-
อยู่อย่างพอเพียง
-
มีจิตสาธารณะ
สมรรถนะ
-
มีความสามารถในการสื่อสาร
-
มีความสามารถในการคิด
-
มีความสามารถในการแก้ปัญหา
-
มีความสามารถในการใช้เทคโนโลยี
การจัดกิจกรรมการเรียนการสอน
|
อาจารย์
|
นักเรียน
|
|
1.
ทบทวนพื้นฐานความรู้เดิม
1.1 อาจารย์ถามนักเรียนว่าทราบไหมว่าหนังแต่ละเรื่องมีเบื้องหลัง
และการสร้างหนังก็มีที่มาที่ไป หนังมีวิวัฒนาการด้วย
|
1.
ทบทวนพื้นฐานความรู้เดิม
1.1 นักเรียนตอบคำถามของอาจารย์
(Answer will vary.)
|
|
2.
สอนเนื้อหาใหม่และปฏิบัติกิจกรรม
2.1
อาจารย์แจ้งให้นักเรียนทราบว่าเราจะเรียนรู้เรื่อง The magic of movies ซึ่งกล่าวถึงการสร้างสเปเชี่ยลเอฟเฟกในยุคแรกๆ
2.2 อาจารย์แจกใบความรู้เรื่อง
The magic of movies
2.3 อาจารย์ถามคำถามนักเรียนเกี่ยวกับ
เนื้อเรื่องที่อ่านจากใบความรู้เพื่อทดสอบ ดังต่อไปนี้
- When was the first movie show?
- Who was the director of it?
- What is the idea about special
effect?
- Who is the genius about special
effect?
- And what was it name?
- What was the technique for King
Kong?
- What was the special effect in Toy Story?
|
2.
สอนเนื้อหาใหม่และปฏิบัติกิจกรรม
2.1 นักเรียนรับทราบว่าเราจะเรียนรู้เรื่อง
The magic of movies
2.2 นักเรียนรับแจกใบความรู้เรื่อง
The magic of movies
2.3 นักเรียนตอบคำถามอาจารย์ตามเนื้อเรื่อง
(Answers depend on the text.)
|
|
อาจารย์
|
นักเรียน
|
|
- Who was the director of Star War?
- How Star War was made?
|
|
|
3.
สรุปบทเรียน
3.1 อาจารย์ถามนักเรียนว่าจากที่เรียนมาทั้งหมดนักเรียนได้เรียนรู้อะไรบ้าง
(What did you
get from this story?)
|
3.
สรุปบทเรียน
3.1 นักเรียนตอบคำถามอาจารย์
(Answers will vary.)
|
|
4.
ฝึกทักษะจากใบงานและจากแบบฝึกหัดเสริม
4.1 อาจารย์แจกแบบฝึกหัดให้นักเรียนที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับการสรุปเนื้อเรื่อง
และการใช้คำศัพท์ในบริบทที่แตกต่างใจเนื้อเรื่อง
4.2 อาจารย์ให้นักเรียนทำแบบฝึกหัด
|
4.
ฝึกทักษะจากใบงานและจากแบบฝึกหัดเสริม
4.1 นักเรียนรับแจกแบบฝึกหัด
4.2 นักเรียนทำแบบฝึกหัดนั้น
|
|
5.
การนำความรู้ไปใช้
5.1 อาจารย์ให้การบ้านนักเรียนทำการบ้านโดยการสรุปเนื้อเรื่องจากบทความในเว็บไซต์ฝึกภาษาหรือจากหนังสือพิมพ์ภาษาอังกฤษ
5.2 อาจารย์กำหนดหัวข้อว่าควรเป็นเรื่องเกี่ยวกับการสร้างหนังเรื่องใดเรื่องหนึ่ง
หรือเรื่องเบื้องหลังของหนัง
|
5.
การนำความรู้ไปใช้
5.1 นักเรียนทำการบ้านโดยการสรุปเนื้อเรื่องจากบทความในเว็บไซต์ฝึกภาษาหรือจากหนังสือพิมพ์ภาษาอังกฤษและสอบถามข้อสงสัย
5.2 นักเรียนรับทราบหัวข้อเรื่องและสอบถามข้อสงสัย
(ถ้ามี)
|
|
6.
การประเมินผล
6.1 อาจารย์ให้นักเรียนส่งการบ้านจากคาบที่แล้วมาให้อาจารย์ตรวจลงคะแนน
วิจารณ์เป็นลายลักษณ์อักษร
6.2 อาจารย์ให้นักเรียนส่งแบบฝึกหัดมาตรวจหาผลคะแนน
|
6.
การประเมินผล
6.1 นักเรียนส่งการบ้านจากคาบที่แล้วมาให้อาจารย์ตรวจลงคะแนน
วิจารณ์เป็นลายลักษณ์อักษร
6.2 นักเรียนส่งแบบฝึกหัดมาตรวจหาผลคะแนน
|
สื่อ
- ใบความรู้ที่ 5
- ใบงานที่ 5
การวัดและประเมินผล
|
จุดประสงค์
|
เครื่องมือที่ใช้
ในการวัดและประเมินผล
|
เกณฑ์การวัดและประเมินผล
|
|
1.
นักเรียนสรุปใจความสำคัญของเรื่องที่อ่านได้
2.
นักเรียนบอกความหมายของคำศัพท์จากบทเรียนได้
3.
นักเรียนเดาความหมายของคำศัพท์จากบริบทได้
4.
นักเรียนบอกรายละเอียดของเรื่องที่อ่านได้
5.
นักเรียนใช้รูปแบบคำกริยาได้ถูกต้องตามกาล
|
-
แบบฝึกหัดท้ายบทเรียน
|
8-9 คะแนน ดีเยี่ยม
6-7 คะแนน ดี
4-5 คะแนน ผ่าน
0-3 คะแนน ไม่ผ่าน
|
บันทึกผลหลังการสอน
-
ผลที่เกิดขึ้นกับผู้เรียน
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
-
ปัญหาที่พบ
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
-
แนวทางในการพัฒนาและแก้ไข
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ลงชื่อ
.............................................ผู้บันทึก
(นางสาวปิลันธร มั่นพันธ์พาณิชย์)
ภาคผนวก
ค
- ใบความรู้ที่ 5 เรื่อง The
Magic of Movies
- ใบงานที่ 5 เรื่อง The
Magic of Movies
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 6
หน่วยการเรียนรู้เรื่อง Easy
History
รหัสวิชา
อ23206 วิชา ภาษาอังกฤษเพื่อการศึกษาต่อ 2
กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ
(สาระการเรียนรู้เพิ่มเติม)
ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่
3 เวลา 1 คาบ
มาตรฐาน
ต 1.2
มีทักษะการสื่อสารทางภาษาในการและเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร
แสดงความรู้สึกและ
ความคิดเห็นอย่างมีประสิทธิภาพ
ความคิดเห็นอย่างมีประสิทธิภาพ
ตัวชี้วัด
ต 1.2/1 สนทนาและเขียนโต้ตอบข้อมูลเกี่ยวกับตนเอง
เรื่องต่างๆ ใกล้ตัว สถานการณ์ ข่าว เรื่องที่อยู่ในความสนใจของสังคม
และสื่อสารอย่างต่อเนื่องและเหมาะสม
ต 1.2/4 พูดและเขียนเพื่อขอและให้ข้อมูล
อธิบาย เปรียบเทียบ และแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องที่ฟังหรืออ่านอย่างเหมาะสม
ต 1.2/5 พูดและเขียนบรรยายความรู้สึกและความคิดเห็นของตนเองเกี่ยวกับเรื่องต่างๆ
กิจกรรม ประสบการณ์ และข่าว/เหตุการณ์ พร้อมทั้งให้เหตุผลประกอบอย่างเหมาะสม
จุดประสงค์การเรียนรู้
1. นักเรียนสรุปใจความสำคัญของเรื่องที่อ่านได้
2. นักเรียนบอกความหมายของคำศัพท์จากบทเรียนได้
3. นักเรียนเดาความหมายของคำศัพท์จากบริบทได้
4. นักเรียนบอกรายละเอียดของเรื่องที่อ่านได้
สาระสำคัญ
นักเรียนจะได้เรียนรู้ว่าความเปลี่ยนแปลงในโลกนี้ว่าเกิดจากความคิดของคนเพียงไม่กี่คน
แม้จะเพียงเล็กน้อย ก็พลิกโฉมหน้าประเทศของเขาได้
และช่วยให้ความเป็นอยู่ของผู้คนดีขึ้น ได้รับความรูไวยากรณ์เรื่อง Present perfect tense
คุณลักษณะอันพึงประสงค์
- รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์
- ซื่อสัตย์สุจริต
- อยู่อย่างพอเพียง
- มีจิตสาธารณะ
สมรรถนะ
- มีความสามารถในการสื่อสาร
- มีความสามารถในการคิด
- มีความสามารถในการใช้เทคโนโลยี
กิจกรรมการจัดการเรียนการสอน
|
อาจารย์
|
นักเรียน
|
|
1.
ทบทวนพื้นฐานความรู้เดิม
1.1 อาจารย์ถามนักเรียนว่าทราบไหมว่าใครสร้างความเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่บนโลกนี้บ้าง
1.2 อาจารย์ยกตัวอย่างเช่น ไอน์สไตน์
สร้างระเบิดนิวเคลียร์ล้างโลก หรือ
โทมัน อัลวา เอดิสัน ได้ผลิตกระแสไฟฟ้าสร้างความเปลี่ยนแปลงไปทั้งโลก แล้วคนที่สร้างสิ่งเล็กๆ แล้วเกิดความเปลี่ยนแปลงในทางที่ดี เราจะได้เรียนรู้กัน |
1.
ทบทวนพื้นฐานความรู้เดิม
1.1 นักเรียนตอบคำถามอาจารย์
(Answers will vary.)
1.2 นักเรียนฟังอาจารย์เล่าเรื่องเกี่ยวกับบุคคลสำคัญของโลก
|
|
2.
สอนเนื้อหาใหม่และปฏิบัติกิจกรรม
2.1 อาจารย์แจ้งให้นักเรียนทราบว่าเราจะเรียนเรื่อง
People who made
a Big difference-in a small way
2.2 อาจารย์แจกใบความรู้เรื่อง People who made a Big
difference-in a small way
2.3 อาจารย์สอบถามเนื้อหาจากเรื่องที่อ่าน
ดังนี้
-
How Mohamed Yunus Change the world?
- How
Nancy Lublin help poor people?
|
2.
สอนเนื้อหาใหม่และปฏิบัติกิจกรรม
2.1 นักเรียนรับทราบว่าเราจะเรียนเรื่อง
People who made a Big difference-in a small way
2.2 นักเรียนรับใบความรู้เรื่อง
People who made a Big difference-in a small way
2.3 นักเรียนตอบคำถามตามเนื้อเรื่อง
(Answers depend on the text.)
|
|
อาจารย์
|
นักเรียน
|
|
3.
สรุปบทเรียน
3.1 อาจารย์ถามนักเรียนว่าจากที่เรียนมาทั้งหมดนักเรียนได้ความรู้อะไรบ้าง
(What do you get from this lesson?)
|
3.
สรุปบทเรียน
3.1 นักเรียนตอบคำถามอาจารย์
(Answers will vary.)
|
|
4.
ฝึกทักษะจากใบงานและจากแบบฝึกหัดเสริม
4.1 อาจารย์แจกแบบฝึกหัด
และให้นักเรียนลงมือทำ
|
4.
ฝึกทักษะจากใบงานและจากแบบฝึกหัดเสริม
4.1 นักเรียนรับแจกแบบฝึกหัด
และลงมือทำแบบฝึกหัด
|
|
5.
การนำความรู้ไปใช้
5.1 อาจารย์ให้นักเรียนทำการบ้านโดยการสรุปเนื้อเรื่องจากบทความในเว็บไซต์ฝึกภาษาหรือจากหนังสือพิมพ์ภาษาอังกฤษ
5.2 อาจารย์กำหนดหัวข้อว่าควรเกี่ยวกับประวัติบุคคลสำคัญ
ของประเทศไทย หรือชาวต่างชาติก็ได้และตอบคำถามนักเรียน
|
5.
การนำความรู้ไปใช้
5.1 นักเรียนทำการบ้านโดยการสรุปเนื้อเรื่องจากบทความในเว็บไซต์ฝึกภาษาหรือจากหนังสือพิมพ์ภาษาอังกฤษ
5.2
นักเรียนรับทราบหัวข้อว่าเกี่ยวกับอะไร และสอบถามข้อสงสัย
|
|
6.
การประเมินผล
6.1 อาจารย์ให้นักเรียนทำส่งการบ้านจากคาบที่แล้วและรับทราบคำวิจารณ์เป็นลายลักษณ์อักษรของการบ้านที่ส่งมาแล้ว
6.2 อาจารย์ให้นักเรียนส่งแบบฝึกหัดมาตรวจหา
ผลคะแนน
|
6.
การประเมินผล
6.1 นักเรียนทำส่งการบ้านจากคาบที่แล้วและรับทราบคำวิจารณ์เป็นลายลักษณ์อักษรของการบ้านที่ส่งมาแล้ว
6.2 นักเรียนส่งแบบฝึกหัดมาตรวจหา ผลคะแนน
|
สื่อ
- ใบความรู้ที่ 6
- ใบงานที่ 6
การวัดและประเมินผล
|
จุดประสงค์
|
เครื่องมือที่ใช้
ในการวัดและประเมินผล
|
เกณฑ์การวัดและประเมินผล
|
|
1.
นักเรียนสรุปใจความสำคัญของเรื่องที่อ่านได้
|
-
แบบฝึกหัดท้ายบทเรียน
|
8-9 คะแนน ดีเยี่ยม
6-7 คะแนน ดี
|
|
จุดประสงค์
|
เครื่องมือที่ใช้
ในการวัดและประเมินผล
|
เกณฑ์การวัดและประเมินผล
|
|
2.
นักเรียนบอกความหมายของคำศัพท์จากบทเรียนได้
3.
นักเรียนเดาความหมายของคำศัพท์จากบริบทได้
4.
นักเรียนบอกรายละเอียดของเรื่องที่อ่านได้
|
|
4-5 คะแนน ผ่าน
0-3 คะแนน ไม่ผ่าน
|
บันทึกผลหลังการสอน
-
ผลที่เกิดขึ้นกับผู้เรียน
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
-
ปัญหาที่พบ
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
-
แนวทางในการพัฒนาและแก้ไข
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ลงชื่อ
.............................................ผู้บันทึก
(นางสาวปิลันธร
มั่นพันธ์พาณิชย์)
ภาคผนวก
ค
- ใบความรู้ที่ 6 เรื่อง People
Who Made a Big Difference-in a Small Way
- ใบงานที่ 6 เรื่อง People
Who Made a Big Difference-in a Small Way
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 7
หน่วยการเรียนรู้เรื่อง Customs
and Cultures
รหัสวิชา
อ23206 วิชา ภาษาอังกฤษเพื่อการศึกษาต่อ 2
กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ
(สาระการเรียนรู้เพิ่มเติม)
ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่
3 เวลา 1 คาบ
มาตรฐาน
ต 2.2
เข้าใจความเหมือนและความแตกต่างระหว่างภาษาวัฒนธรรมของเจ้าของภาษากับภาษาและวัฒนธรรมไทย
และนำมาใช้อย่างถูกต้องและเหมาะสม
ตัวชี้วัด
ต 2.2/1 เปรียบเทียบและอธิบายความเหมือนและความแตกต่างระหว่างการออกเสียงประโยคชนิดต่างๆ
และการลำดับคำตามโครงสร้างทางประโยคของภาษาต่างประเทศและภาษาไทย
ต 2.2/2 เปรียบเทียบและอธิบายความเหมือนและความแตกต่างระหว่างชีวิตความเป็นอยู่และวัฒนธรรมของเจ้าของภาษากับของไทย
และนำไปใช้อย่างเหมาะสม
จุดประสงค์การเรียนรู้
1.
นักเรียนสรุปใจความสำคัญของเรื่องที่อ่านได้
2. นักเรียนเดาความหมายของคำศัพท์จากบริบทได้
3. นักเรียนบอกรายละเอียดของเรื่องที่อ่านได้
4. นักเรียนใช้รูปแบบคำกริยาได้ถูกต้องตามกาล
สาระสำคัญ
นักเรียนจะได้เรียนรู้เกี่ยวกับการวัฒนธรรมในหลายประเทศที่มักจะมีนักท่องเที่ยวเดินทางไปเยี่ยมชม
ได้เรียนรู้ไวยากรณ์ เรื่อง Present
simple tense
คุณลักษณะอันพึงประสงค์
- ซื่อสัตย์สุจริต
- มีวินัย
- ใฝ่เรียนรู้
- มีจิตสาธารณะ
สมรรถนะ
- มีความสามารถในการสื่อสาร
- มีความสามารถในการคิด
- มีความสามารถในการแก้ปัญหา
- มีความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต
กิจกรรมการจัดการเรียนการสอน
|
อาจารย์
|
นักเรียน
|
|
1.
ทบทวนพื้นฐานความรู้เดิม
1.1 อาจารย์ถามนักเรียนเกี่ยวกับต่างประเทศว่ามีสิ่งที่ควรทำและไม่ควรทำ
อย่างไรบ้าง
1.2 ในการไปเที่ยวต่างประเทศหรือเพียงแค่ไปบ้านเพื่อนเราก็ควรจะทำตัวตามเจ้าของบ้าน
และวันนี้เราจะมาเรียนเรื่องเหล่านี้ในประเทศต่างๆ กัน
|
1.
ทบทวนพื้นฐานความรู้เดิม
1.1 นักเรียนตอบคำถามเกี่ยวกับต่างประเทศว่ามีสิ่งที่ควรทำและไม่ควรทำ
อย่างไรบ้าง
1.2 นักเรียนรับทราบว่าเราจะมาเรียนเรื่องเกี่ยวกับอะไร
|
|
2.
สอนเนื้อหาใหม่และปฏิบัติกิจกรรม
2.1 อาจารย์แจ้งนักเรียนว่าเราจะมาเรียนเรื่อง
Tips to
International Travelers
2.2 อาจารย์แจกใบความรู้เรื่อง Tips to International
Travelers และตอบคำถามเกี่ยวกับคำศัพท์ที่เกี่ยวข้อง
2.3
อาจารย์สอบถามนักเรียนตามเนื้อเรื่องที่อ่าน โดยมีคำถาม ดังนี้
- How much should you tip in
U.S. for waiter and taxi driver?
- What should you do in Italy and
Mexico?
- What should you do in England?
- What should you do in Spain?
- What should you do in Arab
countries?
|
2.
สอนเนื้อหาใหม่และปฏิบัติกิจกรรม
2.1 นักเรียนรับทราบว่าเราจะมาเรียนเรื่อง
Tips to International Travelers
2.2 นักเรียนรับแจกใบความรู้เรื่อง
Tips to International Travelers
2.3 นักเรียนตอบคำถามอาจารย์ตามเนื้อหา
ในเรื่อง (Answer depend on the text)
|
|
อาจารย์
|
นักเรียน
|
|
- What should you do in Japan?
- What should you do in most Asian
countries?
- What should you don’t forget?
|
|
|
3.
สรุปบทเรียน
3.1 นักเรียนตอบคำถามว่าจากที่เรียนมาทั้งหมด
นักเรียนได้เรียนรู้เกี่ยวกับอะไรบ้าง (What did you get from this
lesson?)
3.2
อาจารย์ให้แง่คิดแก่นักเรียนว่า เวลาเราไปต่างประเทศ ประเทศไหน
เราควรศึกษาก่อนว่าเราควรปฏิบัติตัวอย่างไร เพื่อไม่ให้เขามองว่าคนไทยหยาบคาย
ไร้มารยาท ไม่สุภาพ และภาษากายก็สำคัญมาก อาจจะสำคัญกว่าภาษาพูดก็ได้
เพราะพูดผิดยังมีคนให้อภัยที่ไม่ใช่เจ้าของภาษา
แต่ถ้าเราประพฤติตัวผิดมันบอกเลยว่า เวลาเราอยู่ในประเทศไทย เราปฏิบัติตัวเช่นไร
ดังนั้นควรคิดให้ดี
|
3.
สรุปบทเรียน
3.1 นักเรียนตอบคำถามอาจารย์
(Answers will vary.)
3.2 นักเรียนรับทราบเกี่ยวกับแง่คิด
และคอยเสริมความคิดเห็นถ้านักเรียนมีความคิดเห็นเพิ่มเติม
|
|
4.
ฝึกทักษะจากใบงานและจากแบบฝึกหัดเสริม
4.1
อาจารย์แจกแบบฝึกหัดที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับการจับใจความเนื้อเรื่อง และทดสอบคำศัพท์ในบริบทที่แตกต่างจากในเนื้อเรื่อง
|
4.
ฝึกทักษะจากใบงานและจากแบบฝึกหัดเสริม
4.1 นักเรียนรับแจกแบบฝึกหัด
|
|
5.
การนำความรู้ไปใช้
5.1
อาจารย์ให้การบ้านนักเรียนโดยการสรุปเนื้อเรื่องจากบทความในเว็บไซต์ฝึกภาษาหรือจากหนังสือพิมพ์ภาษาอังกฤษ
5.2
อาจารย์กำหนดหัวข้อว่าควรจะ เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวต่างประเทศ
และตอบข้อสงสัยของนักเรียน
|
5.
การนำความรู้ไปใช้
5.1 นักเรียนรับทราบการบ้านเกี่ยวกับ
การสรุปเนื้อเรื่องจากบทความในเว็บไซต์ฝึกภาษาหรือจากหนังสือพิมพ์ภาษาอังกฤษ
5.2 นักเรียนรับทราบหัวข้อที่จะต้องทำและสอบถามข้อสงสัย
เพิ่มเติม ถ้ามีข้อสงสัย
|
|
อาจารย์
|
นักเรียน
|
|
6.
การประเมินผล
6.1 อาจารย์ให้นักเรียนส่งการบ้านจากคาบที่แล้วและรับทราบคำวิจารณ์เป็นลายลักษณ์อักษรของการบ้านที่ส่งมาแล้ว
6.2 อาจารย์ให้นักเรียนส่งแบบฝึกหัดเรื่องที่เรียนเพื่อมาตรวจให้คะแนน
|
6.
การประเมินผล
6.1 นักเรียนส่งการบ้านจากคาบที่แล้วและรับทราบคำวิจารณ์เป็นลายลักษณ์อักษรของการบ้านที่ส่งมาแล้ว
6.2 นักเรียนส่งแบบฝึกหัดเรื่องที่เรียนเพื่อมาตรวจให้คะแนน
|
สื่อ
- ใบความรู้ที่ 7
- ใบงานที่ 7
การวัดและประเมินผล
|
จุดประสงค์
|
เครื่องมือที่ใช้
ในการวัดและประเมินผล
|
เกณฑ์การวัดและประเมินผล
|
|
1.
นักเรียนสรุปใจความสำคัญของเรื่องที่อ่านได้
2.
นักเรียนเดาความหมายของคำศัพท์จากบริบทได้
3.
นักเรียนบอกรายละเอียดของเรื่องที่อ่านได้
4.
นักเรียนใช้รูปแบบคำกริยาได้ถูกต้องตามกาล
|
-
แบบฝึกหัดท้ายบทเรียน
|
8-9 คะแนน ดีเยี่ยม
6-7 คะแนน ดี
4-5 คะแนน ผ่าน
0-3 คะแนน ไม่ผ่าน
|
บันทึกผลหลังการสอน
-
ผลที่เกิดขึ้นกับผู้เรียน
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
-
ปัญหาที่พบ
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
-
แนวทางในการพัฒนาและแก้ไข
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ลงชื่อ
.............................................ผู้บันทึก
(นางสาวปิลันธร มั่นพันธ์พาณิชย์)
ภาคผนวก
ค
- ใบความรู้ที่ 7 เรื่อง Tips
to International Travelers
- ใบงานที่ 7 เรื่อง Tips
to International Travelers
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 8
หน่วยการเรียนรู้เรื่อง Customs
and Cultures
รหัสวิชา
อ23206 วิชา ภาษาอังกฤษเพื่อการศึกษาต่อ 2
กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ
(สาระการเรียนรู้เพิ่มเติม)
ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่
3 เวลา 1 คาบ
มาตรฐาน
ต 2.2
เข้าใจความเหมือนและความแตกต่างระหว่างภาษาและวัฒนธรรมของเจ้าของภาษากับภาษาและวัฒนธรรมไทย
และนำมาใช้อย่างถูกต้องและเหมาะสม
ตัวชี้วัด
ต 2.2/1 เปรียบเทียบและอธิบายความเหมือนและความแตกต่างระหว่างการออกเสียงประโยคชนิดต่างๆ
และการลำดับคำตามโครงสร้างประโยคของภาษาต่างประเทศและภาษาไทย
ต 2.2/2 เปรียบเทียบและอธิบายความเหมือนและความแตกต่างระหว่างชีวิตความเป็นอยู่และวัฒนธรรมของเจ้าของภาษากับของไทย
และนำไปใช้อย่างเหมาะสม
จุดประสงค์การเรียนรู้
1. นักเรียนสรุปใจความสำคัญของเรื่องที่อ่านได้
2. นักเรียนบอกความหมายของคำศัพท์จากบทเรียนได้
3. นักเรียนเดาความหมายของคำศัพท์จากบริบทได้
4. นักเรียนบอกรายละเอียดของเรื่องที่อ่านได้
5. นักเรียนบอกความหมายของคำที่ใช้อ้างอิงถึงคำนามที่กล่าวมาแล้ว
สาระสำคัญ
นักเรียนได้เรียนรู้เกี่ยวกับวัฒนธรรมการทักทาย
การพบปะกันของชาวต่างชาติ และได้ความรู้เกี่ยวกับไวยากรณ์เรื่อง Present simple tense
คุณลักษณะอันพึงประสงค์
-
รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์
-
ซื่อสัตย์สุจริต
-
มุ่งมั่นในการทำงาน
-
รักความเป็นไทย
สมรรถนะ
-
มีความสามารถในการสื่อสาร
-
มีความสามารถในการคิด
-
มีความสามารถในการแก้ปัญหา
-
มีความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต
กิจกรรมการจัดการเรียนการสอน
|
อาจารย์
|
นักเรียน
|
|
1.
ทบทวนพื้นฐานความรู้เดิม
1.1 อาจารย์ถามนักเรียนว่าเวลาเราควรทำตัวอย่างไร
เจ้าของบ้านทำตัวอย่างไร เราควรทำปฏิบัติตามหรือไม่
1.2 อาจารย์แจ้งนักเรียนว่าเราจะมาเรียนเรื่องเกี่ยวกับการปฏิบัติตัวในต่างประเทศต่อเนื่องจากบทที่แล้ว
เราจะได้สำนวนภาษาอังกฤษที่ตรงกับภาษาไทยด้วย ว่า When in Rome, do as Roman do
ความหมายตรงกับภาษิตไทยว่า เข้าเมืองตาหลิ่วต้องหลิ่วตาตาม
|
1.
ทบทวนพื้นฐานความรู้เดิม
1.1 นักเรียนตอบคำถามอาจารย์ (Answers will vary.)
1.2 นักเรียนรับทราบว่าเราจะเรียนเรื่องอะไร
และเรื่องที่เกี่ยวข้องจะตรงกับสำนวนภาษาอังกฤษว่าอย่างไร
|
|
2.
สอนเนื้อหาใหม่และปฏิบัติกิจกรรม
2.1 อาจารย์แจ้งให้นักเรียนรับทราบว่าเราจะมาเรียนรู้เรื่องเกี่ยวกับเรื่อง
When In Rome, Do as The Romans Do
2.2 อาจารย์แจกใบความรู้เรื่อง
When In Rome, Do as The Romans Do
และตอบคำถามเกี่ยวกับคำศัพท์ที่เกี่ยวข้อง
2.3 อาจารย์สอบถามความเข้าใจเกี่ยวกับเนื้อเรื่อง
ข้อคำถามดังต่อไปนี้
-
What should you do about Hugging, Kissing, and Keeping a Distance, according
to the story?
|
2.
สอนเนื้อหาใหม่และปฏิบัติกิจกรรม
2.1 นักเรียนรับทราบว่าเราจะมาเรียนรู้เรื่องเกี่ยวกับเรื่อง
When In Rome, Do as The Romans Do
2.2 นักเรียนรับใบความรู้เรื่อง
When In Rome, Do as The Romans Do
และสอบถามเกี่ยวกับคำศัพท์ที่เกี่ยวข้อง
2.3
นักเรียนตอบคำถามอาจารย์เกี่ยวกับเนื้อเรื่องที่อ่าน (Answers
depend on the text.)
|
อาจารย์
|
นักเรียน
|
|
- What should you do about Eye
Contact
,
according to the story?
- What should you do about On a
First-Name Basis, according to the story?
- What should you do about
Invitations, according to the story?
- What should you do about
Punctuality, according to the story?
- What should you do about Noise, according
to the story?
|
|
|
3.
สรุปบทเรียน
3.1
อาจารย์ถามนักเรียนว่าจากที่เรียนมาทั้งหมดนักเรียนได้ความรู้เกี่ยวกับอะไรบ้าง
(What did you get from this lesson?)
3.2
อาจารย์ให้แง่คิดนักเรียนว่า เวลาเราทำอะไร เราควรคิดให้รอบคอบ ไปเที่ยวที่ไหน
บ้านไหน เมืองไหน ก็ควรรับทราบวัฒนธรรมของเขา
และจากที่เราเรียนมาเราได้ทราบความแตกต่างระหว่างวัฒนธรรมไทยกับต่างชาติด้วย
|
3.
สรุปบทเรียน
3.1 นักเรียนตอบคำถามอาจารย์
(Answers will vary.)
3.2 นักเรียนรับทราบแง่คิดและให้ความคิดเพิ่มเติมในกรณีที่นักเรียนมีความคิดเห็นเพิ่มเติม
|
|
4.
ฝึกทักษะจากใบงานและจากแบบฝึกหัดเสริม
4.1 อาจารย์แจกแบบฝึกหัดที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับการจับใจความและทดสอบคำศัพท์ในบริบทที่แตกต่างจากในเนื้อเรื่อง
|
4.
ฝึกทักษะจากใบงานและจากแบบฝึกหัดเสริม
4.1 นักเรียนรับแจกแบบฝึกหัดและทำแบบฝึกหัด
|
|
5.
การนำความรู้ไปใช้
5.1 อาจารย์ให้การบ้านนักเรียนโดยการสรุปเนื้อเรื่องจากบทความในเว็บไซต์ฝึกภาษาหรือจากหนังสือพิมพ์ภาษาอังกฤษ
|
5.
การนำความรู้ไปใช้
5.1 นักเรียนรับทราบการบ้านที่ให้สรุปเนื้อเรื่องจากบทความในเว็บไซต์ฝึกภาษาหรือจากหนังสือพิมพ์ภาษาอังกฤษ
|
อาจารย์
|
นักเรียน
|
|
5.2 อาจารย์กำหนดหัวข้อว่าควรเกี่ยวกับ
การไปเที่ยวต่างประเทศ และตอบข้อสงสัยของนักเรียน
|
5.2 นักเรียนรับทราบหัวข้อที่ควรทำ
และซักถามข้อสงสัยเกี่ยวกับการบ้าน
|
|
6.
ประเมินผล
6.1 อาจารย์ให้นักเรียนส่งการบ้านจากคาบที่แล้วและรับทราบคำวิจารณ์เป็นลายลักษณ์อักษรของการบ้านที่ส่งมาแล้ว
6.2 อาจารย์ให้นักเรียนส่งแบบฝึกหัดเพื่อตรวจให้คะแนน
|
6.
ประเมินผล
6.1 นักเรียนส่งการบ้านจากคาบที่แล้วและรับทราบคำวิจารณ์เป็นลายลักษณ์อักษรของการบ้านที่ส่งมาแล้ว
6.2 นักเรียนส่งแบบฝึกหัดเพื่อตรวจให้คะแนน
|
การวัดและประเมินผล
|
จุดประสงค์
|
เครื่องมือที่ใช้
ในการวัดและประเมินผล
|
เกณฑ์การวัดและประเมินผล
|
|
1.
นักเรียนสรุปใจความสำคัญของเรื่องที่อ่านได้
2.
นักเรียนบอกความหมายของคำศัพท์จากบทเรียนได้
3.
นักเรียนเดาความหมายของคำศัพท์จากบริบทได้
4.
นักเรียนบอกรายละเอียดของเรื่องที่อ่านได้
5.
นักเรียนบอกความหมายของคำที่ใช้อ้างอิงถึงคำนามที่กล่าวมาแล้ว
|
-
แบบฝึกหัดท้ายบทเรียน
|
8-9 คะแนน ดีเยี่ยม
6-7 คะแนน ดี
4-5 คะแนน ผ่าน
0-3 คะแนน ไม่ผ่าน
|
บันทึกผลหลังการสอน
-
ผลที่เกิดขึ้นกับผู้เรียน
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
-
ปัญหาที่พบ
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
-
แนวทางในการพัฒนาและแก้ไข
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ลงชื่อ
.............................................ผู้บันทึก
(นางสาวปิลันธร มั่นพันธ์พาณิชย์)
ภาคผนวก
ค
- ใบความรู้ที่ 8 เรื่อง When
In Rome, Do As The Romans Do
- ใบงานที่ 8 เรื่อง When
In Rome, Do As The Romans Do
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น